Page 33 - ประวัติศาสตร์รถถังโลก
P. 33
ประวัติศาสตร์รถถังโลก
กระสุนปืนขนาด 20 มม. ได้ 180 นัด และกระสุนปืนกลร่วมแกน
1,425 นัด เคยทดลองให้ใช้ปืนใหญ่ 37 มม. และ 50 มม.
ั
ื
ึ
�
แต่ต้องยกเลิกเม่อพบว่าปืนใหญ่ข้นน้นไม่จาเป็น การทดสอบ
�
และใช้งานจริงระหว่างสงครามกลางเมืองสเปนทาให้รู้ว่าต้อง
ใช้เกราะหนาข้น และเคร่องยนต์ท่แรงข้นเพ่อประสิทธิภาพ
ึ
ี
ึ
ื
ื
สูงสุด
เกราะรถถังในช่วงแรกหนา 14 มม. ท่ด้านหน้า ด้านหลังและ
ี
่
ั
้
้
้
ดานขาง และ 10 มม. ทดานบนและลางของตวรถ Ausf B เกราะ
่
ี
หน้าถูกเพิ่มความหนาขึ้นเล็กน้อยและน�้าหนักรวมของ PzKpfw
II นั้นคือ 7.8 ตัน ใช้เครื่องยนต์เบนซินไมย์บัค (Maybach) 6 สูบ
ุ
�
ี
ั
้
ั
้
�
ื
ให้กาลงขับเคล่อน 140 แรงมา แทนร่นเดมท่ใหกาลง 130 แรงม้า
ิ
PzKpfw รุ่นต่อมาอีกหลายรุ่นใช้เกราะหนาข้นและมีระบบกัน
ึ
สะเทือนที่ดีขึ้นเพื่อการขับเคลื่อนในพื้นที่วิบาก ในขณะที่ความ
เร็วบนทางเรียบของ Ausf D และ Ausf E ท�าได้ 55 กม./ชม.
ส่วน Ausf F ที่เข้าสู่แนวรบเป็นครั้งแรกในปี 1940 ใช้เกราะหนา
ขึ้นเป็น 35 มม. และเกราะข้างหนา 20 มม. ท�าให้น�้าหนักรวม
ื
ี
ื
มุมมองด้ำนหลังของ PzKpfw II แสดงพ้นค่อนข้ำงสูงท่ช่วยในกำรเคล่อน
ย้ำยข้ำมภูมิประเทศ รถถัง Ausf F เข้ำกันได้ดีกับผู้บังคับรถ เพิ่มเป็น 9.8 ตัน แลกด้วยความเร็วที่น้อยลง แต่ด้วยรถถังของ
ฝ่ายสัมพันธมิตรที่มีพลานุภาพสูงกว่า จึงต้องเพิ่มความหนาให้
เกราะของ PzKpfw II เมื่อบทบาทของมันเพิ่มเป็นลาดตระเวน
คุณลักษณะ และเป็นส่วนบัญชาการ Ausf F ใช้ระบบกันสะเทือนแบบขดสปริง
แทนระบบทอร์ชั่นบาร์ของรุ่น D และ E
สัดส่วน ยาว: 4.64m (15ft 3in) ป้อมปืนของรถถังรุ่นน้วางตาแหน่งไว้กลางลาตัวค่อนมาทาง
ี
�
�
กว้าง: 2.30m (7ft 6.5in) ซ้ายโดยพลขับน่งอยู่หน้าสุด และตรวจการณ์ได้จากช่องเล็ก
ั
สูง: 2.02m (6ft 7.5in) สเหลยมทางด้านหน้า โดยผ้บังคับรถและพลปืนนงอยู่ในป้อม
ู
่
ั
่
ี
่
ี
น�้ำหนัก 9.5 tonnes (9.3 tons) ปืน
เครื่องยนต์ Maybach เบนซิน 6 สูบ 104kW (140hp
ควำมเร็ว 55km/h (34mph) ควำมคล่องตัวสูง
ั
อำวุธ อาวุธหลัก: ปืนใหญ่ KWK 30 ขนาด PzKpfw II เข้าสู่สนามรบท้งด้านตะวันออกและตะวันตก
ี
�
20mm (0.79in) ความเร็วและเกราะท่บางทาให้แชสซี (chassis) คือโครงหรือช่วง
ื
�
อาวุธรอง: ปืนกล MG 34 ขนาด 7.92mm ล่างถูกนาไปใช้เป็นพ้นฐานของยุทธยานยนต์อีกหลายรุ่น รวม
(0.31in) ทั้งปืนต่อสู้รถถังอัตตาจรมาร์เดอร์ 1 และ 2 (Marder I และ II)
ี
เกรำะ 35mm (1.37in) ท่ด้านหน้า; 20mm และปืนใหญ่อัตตาจร Wespe ปืนใหญ่วิถีโค้งขนาด 105 มม. ที่
ี
(0.79in) ท่ด้านข้าง; 14.5mm (0.57in) ใช้อยู่จนถึงปี 1944
ด้านหลัง; 5mm (0.19in) ที่ท้องรถ รุ่นท่แตกออกไปอีกรุ่นท่น่าสนใจของรถถังติดเคร่องพ่นไฟคู่
ี
ื
ี
พิสัยท�ำกำร 200km (125 miles) PzKpfw II คือฟลัมม์พันเซอร์ 2 (Flammpanzer II) ที่ถูกผลิตขึ้น
พลประจ�ำรถ 3 นาย อย่างน้อย 100 คัน แล้วเข้าประจาการในปี 1942 ส่วนรุ่นสะเทิน
�
้
�
นาสะเทินบกท่ถูกพัฒนาไว้สาหรับการยกพลขึ้นบกของประเทศ
�
ี
32

