Page 9 - สารานุกรมภาพเครื่องแบบในสงครามโลกครั้งที่ 1 UNIFORMS OF WORLD WAR I
P. 9

8 บทน�ำ
                                   เหตุการณ์ทางการเมือง ค.ศ. 1914







                ในแง่หนึ่ง เมื่อปี 1914 ยุโรปเป็นทวีปที่มั่งคั่ง   ส�าคัญในเยอรมนี อิตาลีและรัสเซีย ทว่า
                ประชากร 467 ล้านคนเพลิดเพลินกับความ  การเมืองก็ยังอยู่ในการควบคุมของชนชั้นน�า
                ร�่ารวยที่เพิ่มขึ้น สุขภาพที่ดีขึ้นและอิสรภาพ  เพียงหยิบมือ
                ทางการเมืองที่คนรุ่นก่อนไม่เคยรู้จัก ผู้หญิงและ
                ชนชั้นแรงงานเริ่มมีบทบาททางการเมืองมากขึ้น   อังกฤษ
                ขณะที่ชนชั้นน�าในระบอบขุนนางแบบเดิมก็ถูก  อังกฤษเพลิดเพลินอยู่กับการเป็นผู้ปกครอง
                ท้าทาย ประชากรที่เพิ่มขึ้นน�าไปสู่แรงกดดันใน  จักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพียงหนึ่งเดียว
                ชุมชนและเมืองต่างๆ เกิดการอพยพจากเขต  ครอบครองดินแดน 1 ใน 5 ของโลก และเติบโต
                รอบนอกที่ทุรกันดารของยุโรป (สแกนดิเนเวีย   มากขึ้นในปี 1919 ประชากรบนเกาะ 46 ล้าน
                ตอนใต้ของอิตาลี สกอตแลนด์) ไปสู่   คนเพิ่มขึ้นสม�่าเสมอ ขณะที่คาดว่าในแคนาดา
                สหรัฐอเมริกาและอเมริกาใต้ อย่างไรก็ตามแม้  ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นพอประมาณ
                จะมีการปรับปรุงในหลายพื้นที่ ชีวิตของคนที่  ในอินเดียนั้นยังคงเพิ่มขึ้นอาจถึง 330 ล้าน
                ขาดแคลนก็ไม่สุขสบายอยู่เช่นเดิม    คนในปี 1920 อินเดียยังต้องพึ่งพาอังกฤษ ขณะ
                  ความมั่งคั่งที่เกิดจากการพัฒนา   ที่แคนาดาแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อปี 1867
                อุตสาหกรรม ก�าลังการซื้อและเม็ดเงินที่ไหลเข้า  ออสเตรเลียในปี 1901 นิวซีแลนด์เมื่อปี 1907
                มาจากอาณานิคม ล้วนมีผลกระทบส�าคัญต่อ  และแอฟริกาใต้ในปี 1910          ▲ จักรพรรดิไกเซอร์ วิลเฮล์มแห่งเยอรมนี ประทับยืนด้าน
                การเมืองและชีวิตประจ�าวันทั้งสิ้น คนผู้โชคดีที่                       หน้าสุดกับคณะผู้ตามเสด็จ ราวปี 1914
                ได้ครอบครองความมั่งคั่งก็จะได้รับสิ่งดีๆ นับ  เยอรมนี
                ตั้งแต่การท่องเที่ยวไปจนถึงงานวิจิตรศิลป์   เยอรมนีเป็นที่รู้จักในฐานะรัฐที่มีอ�านาจมาก  ล่าอาณานิคมที่กระตือรือร้น (ปี 1914 ประกอบ
                ส�าหรับคนที่ได้รับเพียงเศษความร�่ารวยของคน  ที่สุดของยุโรปเมื่อเริ่มต้นศตวรรษที่ 20 มี  ด้วยแอลจีเรีย, โมร็อกโก, พื้นที่ส่วนใหญ่ใน
                อื่นก็เป็นสาเหตุของความปั่นป่วนทางการเมือง   เศรษฐกิจที่ประสบความส�าเร็จและจ�านวน  แอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก) บางครั้งก็
                ลัทธิสังคมนิยมที่มีเป้าหมายเพื่อความเท่าเทียม  ประชากรที่เพิ่มขึ้น (68 ล้านคนในปี 1914)   ท�าสงครามเพื่อชิงเอาแคว้นอัลซัคและลอแรนที่
                ก็เกิดขึ้นในหลายประเทศ และเป็นแรงผลักดัน  พื้นที่ของประเทศแผ่ขยายจากแคว้นอัลซัค   ผนวกเข้ากับเยอรมนีกลับคืนมา เห็นได้ชัดเมื่อ
                                                   (Alsace) และลอแรน (Lorraine) ไปถึงพื้นที่  แรมงด์ ปวงกาเร (Raymond Poincaré) เป็น
                ▼ ขบวนกลองหญิงในการลงมติส�าหรับนิทรรศการสตรีที่  ตอนเหนือของโปแลนด์ และจากชายฝั่งทะเล  ประธานาธิบดี ปวงกาเรมาจากลอแรน การน�า
                กรุงลอนดอน วันที่ 13 พฤษภาคม 1909 ความมีอิสรภาพ  บอลติกถึงลิทัวเนีย นอกจากนี้ยังมีอาณานิคม  ดินแดนและศักดิ์ศรีกลับคืนมาจึงเป็นนโยบาย
                ของสตรีเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างหนึ่งในช่วง
                ต้นศตวรรษที่ 20                    ในมหาสมุทรแปซิฟิกและอีกหลายแห่งในทวีป  หลักของเขา ส่วนทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ
                                                   แอฟริกา เยอรมนีปกครองโดยไกเซอร์    มีพรมแดนติดกับเบลเยียมที่เปราะบาง
                                                   (จักรพรรดิ) ภายใต้การควบคุมของนักการเมือง  ประชากรพูดภาษาฝรั่งเศสและเฟลมมิช
                                                   ชั้นสูงปรัสเซีย ท�าสงครามได้ชัยชนะต่อฝรั่งเศส
                                                   เดนมาร์กและออสเตรีย-ฮังการี เพื่อรวมให้เป็น  อิตาลีและโปรตุเกส
                                                   เอกภาพ                             ในทศวรรษ 1860 สองประเทศรวมกันอยู่ภายใต้
                                                     พรรคสังคมประชาธิปัตย์ (Social    ราชวงศ์ซาวอย (House of Savoy) อิตาลีมี

                                                   Democrats) ของเยอรมนี อาจเป็นกลุ่มผู้เรียก  ประชากร 35.3 ล้านคนในปี 1914 แบ่งเป็นพื้นที่
                                                   ร้องที่มีบทบาทเพื่อปฏิรูประบบการเมืองที่เต็ม  ตอนเหนือที่การพัฒนาอุตสาหกรรมก้าวหน้า
                                                   ไปด้วยการกดขี่ในขณะนั้น และเป็น    กับพื้นที่ตอนใต้ที่ยากจนเต็มไปด้วยประชากร
                                                   พรรคการเมืองใหญ่ที่สุดในรัฐสภาหลังปี 1912   ไม่รู้หนังสือจ�านวนมาก ในด้านการเมืองรัฐบาล
                                                   แต่ยังคงมีการคานอ�านาจจากกลุ่มอ�านาจ  ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเพียงเล็กน้อย
                                                   อนุรักษนิยมอยู่                    แต่มีอยู่บ่อยครั้งที่กระตุ้นกระแสความรักชาติขึ้น
                                                                                      มาด้วยการประกาศสงครามในอาณานิคมต่างๆ
                                                   ฝรั่งเศส                           เช่น อะบิสซิเนีย ลิเบียและหมู่เกาะโดเดคะนีส
                                                   ฝรั่งเศสเป็นสาธารณรัฐที่ส�าคัญที่สุดของยุโรป   (Dodecanese islands) ต่อต้านฝรั่งเศสหรือ
                                                   มีประชากร 39.7 ล้านคน และจากความอัปยศ  ช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษาอิตาเลียนใน
                                                   ที่พ่ายแพ้ปรัสเซียในปี 1870 ท�าให้ฝรั่งเศสเป็นผู้  ออสเตรีย-ฮังการีอย่างลับๆ ส่วนโปรตุเกสก็อยู่
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14