Page 11 - สารานุกรมภาพเครื่องแบบในสงครามโลกครั้งที่ 1 UNIFORMS OF WORLD WAR I
P. 11

10 บทน�ำ
                                              ต้นก�าเนิดของสงคราม







                เมื่ออาร์ดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ (Archduke
                Franz Ferdinand) สิ้นพระชนม์บนรถกราฟต์ &
                สติฟ (Gräf & Stift) ซึ่งเป็นรถยนต์พระที่นั่ง
                ท�าให้สงครามเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่
                หลายคนในเวลานั้นเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจเป็น
                เพียงความขัดแย้งในระดับท้องถิ่น แต่จาก
                ธรรมชาติของการเมืองยุโรปในเวลาที่สงคราม
                จะปะทุขึ้นมานั้น เหตุการณ์ดังกล่าวกลับ
                ลุกลามจากการตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามกลายเป็น
                สงครามขนาดใหญ่ของคู่ต่อสู้อย่างที่ไม่เคยมีมา
                ก่อน ต้นก�าเนิดของสงครามอาจย้อนกลับไปได้
                หลายศตวรรษและถึงแม้สงครามจะเกิดขึ้นเร็ว
                กว่าปี 1914 ก็ตาม ทั่วยุโรปในเวลานั้นล้วนเต็ม
                ไปด้วยความคิดที่ว่าต้องใช้สงครามเช่นเดียวกับ
                การด�าเนินการทางการทูต               ปรัสเซียที่มีบทบาทส�าคัญในความปราชัย  ▲ การประชุมใหญ่แห่งเบอร์ลิน (1878) มีขึ้นเพื่อยับยั้งการ
                                                   ของนโปเลียนนั้น ได้รับดินแดนและอ�านาจ  ขยายอาณาเขตของรัสเซียเข้าสู่จักรวรรดิออตโตมาน และ
                แรงกดดันทางการเมือง                ควบคุมเหนือรัฐที่แพ้สงคราม ความพ่ายแพ้ของ  เพื่อสร้างเสริมอ�านาจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
                ยุโรปในปี 1914 คุ้นเคยต่อเหตุการณ์วิกฤติมา  จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีในปี 1866 ท�าให้
                แล้ว แต่สงครามใหญ่ๆ ไม่เกิดขึ้นมานับสิบปี   ปรัสเซียมั่นคงยิ่งขึ้น และการผนวกดินแดนยิ่ง  และกับรัสเซียในปี 1907 เหตุที่ต้องท�าเช่นนี้ใน
                หลังจากแรงผลักดันที่เกิดขึ้นจากการปฏิวัติ  รุ่งโรจน์มากขึ้นจากความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศส  แง่หนึ่งก็เพื่อให้มั่นใจว่าคู่แข่งทางอาณานิคม
                ฝรั่งเศสต้องพ่ายแพ้ไป ชาติมหาอ�านาจของ  และการยึดครองแคว้นอัลซัค-ลอแรน ใน  อย่างฝรั่งเศสจะยังคงเป็นมิตรต่อกันอยู่ เช่น
                ยุโรป (อังกฤษ ออสเตรีย รัสเซียและปรัสเซีย) ก็  สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย (Franco-Prussian   เดียวกับรัสเซียซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในทวีป
                ตกลงที่จะรักษาสันติภาพเอาไว้ ทว่าสัมพันธ-   War) เยอรมนีถือตนเป็นชาติมหาอ�านาจ ครอบ  เอเชีย ความเป็นปรปักษ์เหล่านี้ยังคงด�าเนินต่อ
                ภาพก็ไม่ยั่งยืนและมีแรงกดดันที่ส่งผลต่อความ  ครองอาณานิคมต่างๆ และเศรษฐกิจที่เติบโต  ไป และความพยายามที่จะท�าลายสัมพันธภาพ
                สัมพันธ์ จากการผนวกดินแดนของเยอรมนีและ  อย่างรวดเร็ว                  ก็เป็นสิ่งที่น�าไปสู่การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
                ความเสื่อมของจักรวรรดิออตโตมาน       สัมพันธภาพกับจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี  เครือข่ายประเทศมหาอ�านาจที่เป็นมิตรกัน
                                                   ในปี 1879 ท�าให้เกิดกลุ่มใหม่ในยุโรปกลาง   กลายเป็นมากกว่าสิ่งรับรองความปลอดภัย
                                                   และต่อมาอิตาลีก็เข้าร่วมกลุ่มดังกล่าวใน 3 ปี  เท่านั้น ในหลายกรณี เวลานี้ส่วนต่างๆ ไม่เพียง
                ▼ ภาพพิมพ์ล้อเลียนของฝรั่งเศสแสดงภาพไตรภาคี
                ระหว่างเยอรมนี ออสเตรียและอิตาลี ตีพิมพ์ในนิตยสาร    ถัดมา เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ไตรพันธมิตร” (Triple   แต่พร้อมจะป้องกันตนเอง แต่ยังพร้อมส�าหรับ
                Le Petit Journal มิถุนายน 1896     Alliance) นโยบายของออทโท ฟอน บิสมาร์ค   การป้องกันประเทศที่ร่วมเป็นพันธมิตรอีกด้วย
                                                   (Otto von Bismarck) นายกรัฐมนตรีเยอรมนี  เมื่อเกิดเรื่องราวที่เกินกว่าด้านการทูต
                                                   ระหว่างปี 1871 - 1890 คือการให้ทุกฝ่ายได้ยิน  สถานการณ์นั้นก็ท�าให้ความเป็นศัตรูเพิ่มขึ้น
                                                   เสียงของเยอรมนีและสิ่งที่เยอรมนีใส่ใจต้องได้  อย่างรวดเร็ว
                                                   รับการยอมรับว่าถูกกฎหมาย ทักษะทางการทูต
                                                   ของเขาท�าให้เขาต้องด�าเนินการอย่างมีข้อจ�ากัด   ปัญหาในคาบสมุทรบอลข่าน
                                                   ทว่าการเติบโตและความทะเยอทะยานของ  พื้นที่จักรวรรดิออตโตมานในยุโรปค่อยๆ ลดลง
                                                   อ�านาจใหม่นี้ท�าให้ประเทศเพื่อนบ้านรู้สึกไม่  ระหว่างศตวรรษที่ 19 จากการที่โรมาเนีย กรีซ
                                                   สบายใจ ฝรั่งเศสและรัสเซียลงนามในสนธิ  และเซอร์เบียแยกตัวออกจากการควบคุมของ
                                                   สัญญาทางการทหารในปี 1892 และรับรองสนธิ  ออตโตมาน ยิ่งกว่านั้นในทศวรรษ 1870
                                                   สัญญาดังกล่าวด้วยการเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิด  สถานการณ์ยิ่งอ่อนไหวมากขึ้น เซอร์เบียร์เพิ่ม
                                                   มากขึ้นในปี 1894 อังกฤษซึ่งรู้สึกถึงนโยบาย  ความเป็นปรปักษ์กับออตโตมาน บัลแกเรียแยก
                                                   ของเยอรมนีโดยเฉพาะความทะเยอทะยานใน  ตัวเป็นเอกเทศ และออสเตรีย-ฮังการีเข้ายึด
                                                   ด้านอาณานิคมและการขยายตัวของกองทัพเรือ   ครองบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (Herzegovina)
                                                                                                  �
                                                   ก็เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับฝรั่งเศสเมื่อปี  1904     ประเทศมหาอานาจต่างเข้ามาแทรกแซง
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16