Page 20 - คำแปลบาลีไทย, อิติปิโส, พาหุง, มะหาการุณิโก, ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก, พระไตรปิฎก, มงคลสูตร, กะระณียะเมตตะสุตตัง, อุปมาใบประดู่ลาย, ปฏิจจสมุปบาท, , คาถาพระพุทธเจ้า 5 องค์ตอนชนะมาร,
P. 20

|๒๙๖.๔๖๘|                สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ       ถ้าว่าบุคคลพึงได้สหาย ผู้มีปัญญาเครื่องรักษาตน ผู้เที่ยวไปร่วมกัน
                                  สทฺธึจรํ สาธุวิหาริธีรํ   ได้ มีปรกติอยู่ด้วยกรรมดี เป็นนักปราชญ์ไซร้ พึงครอบงําอันตราย
                                  อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานิ   ทั้งปวง เป็นผู้มีใจชื่นชม มีสติ เที่ยวไปกับสหายนั้นหากว่าบุคคลไม่
                                  จเรยฺย เตนตฺตมโน สติมา ฯ   พึงได้สหายผู้มีปัญญาเครื่องรักษาตน ผู้เที่ยว  ไปร่วมกันได้ มีปรกติ
                                                            อยู่ด้วยกรรมดี เป็นนักปราชญ์ไซร้ พึงเที่ยวไปแต่ผู้เดียว
                                                            ดุจพระราชาทรงละแว่นแคว้นอัน


        |๒๙๖.๔๗๐|               อทฺธา ปสํสาม สหายสมฺปทํ     พระองค์ทรงชนะแล้วเสด็จไปแต่ผู้เดียว ดุจช้างชื่อมาตังคะ ละโขลง
                                                            เที่ยวอยู่ในป่าแต่ผู้เดียว  ฉะนั้น
                                 เสฏฺฐา สมา เสวิตพฺพา สหายา
                                 เอเต อลทฺธา อนวชฺชโภชี     เราย่อมสรรเสริญ สหายผู้ถึงพร้อมด้วยศีลขันธ์เป็นต้น พึงคบสหาย
                                 เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป ฯ   ผู้ประเสริฐ สุด ผู้เสมอกัน กุลบุตรไม่ได้สหายผู้ประเสริฐสุดและผู้
                                                            เสมอกันเหล่านี้แล้ว พึงเป็นผู้บริโภคโภชนะไม่มีโทษ
                                                            เที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น

        |๒๙๖.๔๗๑|                ทิสฺวา สุวณฺณสฺส ปภสฺสรานิ   บุคคลแลดู กําไลทองทั้งสองอันงามผุดผ่อง ที่บุตรแห่งนายช่างทอง
                                  กมฺมารปุตฺเตน สุนิฏฺฐิตานิ   ให้ สําเร็จด้วยดีแล้ว กระทบกันอยู่ในข้อมือ พึงเที่ยวไปผู้เดียว
                                  สงฺฆฏฺฏมานานิ ทุเว ภุชสฺมึ   เหมือนนอแรด ฉะนั้น
                                  เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป ฯ

        |๒๙๖.๔๗๒|               เอวํ ทุติเยน สหามมสฺส       การที่เราจะพึงพูดจากับพระกุมารที่สอง หรือการข้องอยู่ด้วยอํานาจ
                                  วาจาภิลาโป อภิสชฺชนา วา   แห่งความเยื่อใย พึงมีได้อย่างนี้ บุคคลเล็งเห็นภัยนี้ในอนาคต
                                  เอตํ ภยํ อายติ เปกฺขมาโน   พึงเที่ยวไป ผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น
                                  เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป ฯ

        |๒๙๖.๔๗๓|                   กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา   ก็กามทั้งหลายงามวิจิตร  มีรสอร่อย เป็นที่รื่นรมย์ใจ ย่อมย่ํายีจิต
                                  วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺตํ   ด้วยรูปแปลกๆบุคคลเห็นโทษในกามคุณทั้งหลายแล้ว พึงเที่ยวไปผู้
                                  อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา   เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น
                                  เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป ฯ

        |๒๙๖.๔๗๔|                  อีตี จ คณฺโฑ จ อุปทฺทโว จ   บุคคลเห็นภัย คือ จัญไร ผีอุปัทวะ โรค ลูกศร และความน่ากลัวนี้
                                  โรโค จ สลฺลญฺจ ภยญฺจ เมตํ   ในกามคุณทั้งหลายแล้ว
                                  เอตํ ภยํ กามคุเณสุ ทิสฺวา   พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น
                                  เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป ฯ

        |๒๙๖.๔๗๕|               สีตญฺจ อุณฺหญฺจ ขุทํ ปิปาสํ   บุคคลพึงครอบงําอันตรายเหล่านี้แม้ทั้งปวง คือ หนาว ร้อน
                                  วาตาตเป ฑํสสิรึสเป จ      หิว ระหาย ลม แดด เหลือบและสัตว์เสือกคลานแล้ว
                                  สพฺพานิเปตานิ อภิสมฺภวิตฺวา   พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือนนอแรด ฉะนั้น
                                  เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป ฯ

        |๒๙๖.๔๗๖|                   นาโคว ยูถานิ วิวชฺชยิตฺวา   บุคคลพึงเป็นผู้เที่ยวไปผู้เดียวเช่นกับนอแรด
                                  สญฺชาตกฺขนฺโธ ปทุมี อุฬาโร   เปรียบเหมือนช้างใหญ่ผู้เกิดในตระกูลปทุม
                                  ยถาภิรนฺตํ วิหรํ อรญฺเ    มีศีลขันธ์เกิดขึ้นแล้ว ละโขลงอยู่ในป่าตาม
                                  เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปฯ   อภิรมย์ ฉะนั้น

        |๒๙๖.๔๗๗|                  อฏฺฐาน ตํ สงฺคณิการตสฺส   (พระปัจเจกพุทธเจ้าได้กล่าวกึ่งคาถาว่า) บุคคลพึงใคร่ครวญถ้อยคํา
                                  ยํ ผุสฺสเย สามยิกํ วิมุตฺตํ   ของพระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์พระ- อาทิตย์ว่า การที่บุคคลผู้ยินดี
                                  อาทิจฺจพนฺธุสฺส วโจ นิสมฺม   แล้วด้วยการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ จะพึงบรรลุวิมุตติอันมีในสมัยนั้น
                                  เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป ฯ   ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ (พระกุมารได้กล่าวกึ่งคาถาที่พระปัจเจกพุทธ
                                                            เจ้านามว่าอาทิจจ พันธุกล่าวแล้วให้บริบูรณ์ว่า) พึงเที่ยวไปผู้เดียว
                                                            เหมือนนอแรด ฉะนั้น
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25