Page 259 - สาราสารกถา พระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี.
P. 259
216
สาราสารกถา
ี
การไปไหนมาไหนของคนท่ผ่านวัยหนุ่มวัยสาวไปบ้างแล้ว
่
ั
ื
ู
้
ึ
ั
ู
้
บางคนจึงดเหมอนกบวาจะเขาประจญบานกับขาศกในสมรภม ิ
่
ั
ั
ี
ุ
ี
้
้
ี
่
่
ี
่
ั
้
่
้
อยางนนทเดยว ทงนจะวาคนทผานวยหนมวัยสาวไปแลว ความ
ตายชักจะใกล้ๆ เข้ามาทุกขณะๆ จึงต้องกลัวมากก็หามิได้ เพราะ
การตายของคนเรานี้ พญามัจจุราชท่านมิได้จัดคิวไว้ว่า ผู้ใหญ่
ต้องถึงท่ตายก่อนเด็กเสมอ ลัดคิวกันตายได้ท้งน้น ไม่เลือกว่า
ั
ี
ั
ั
เด็กหรือผู้ใหญ่กลัว เหตุท่ทาให้ผู้ใหญ่ตายมากกว่าเด็กน้น เพราะ
�
ี
ในผู้ใหญ่ ความสนุกเพลิดเพลินอันเป็นเหตุให้ลืมตายชักจะอ่อน
ั
ื
ดีกรีลง ส่วนเด็กๆ หรือหนุ่มสาวน้น ยังมีเร่องให้สนุกเพลิดเพลิน
ได้มาก จึงดูเหมือนว่ากลัวตายน้อยกว่าผู้ใหญ่
�
ี
กล่าวโดยสรุป เหตท่ทาให้เรากลัวตายกันน้ คอ “ความรัก”
ี
ื
ุ
ี
และส่งท่เรารักอันเป็นส่อให้เกิดความกลัวตายน้ก็คือชีวิต
ี
ิ
ื
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “สพฺเพสํ ชีวิตํ ปิยํ ชีวิตเป็นท่รักของคน
ี
ี
�
และสัตว์ทุกจาพวก” ไม่มีคนหรือสัตว์ประเภทใดเลยท่จะไม่รัก
ั
�
ชีวิตตน ไม่ว่าชีวิตน้นจะดารงอยู่บนความทุกข์ยากสักเพียงใด
ก็ตาม
เพราะฉะน้น ชีวิตจึงเป็นสมบัติอันลาค่าย่งท่เรารักและ
ิ
้
ี
ั
�
ี
หวงแหนเป็นท่สุด กล่าวเพียงเท่าน้ก็เห็นได้ว่าบรรดาสมบัต ิ
ี
ั
ั
ท้งมวลท่มีในโลกน้ ล้วนเป็นบริวารสมบัติของชีวิตท้งน้น ถ้า
ี
ี
ั
�
ี
ื
ไม่มีชีวิต สมบัติอ่นจะมีได้อย่าไร ก็สมบัติอันลาค่าคือชีวิตน้ เรา
้
ได้มาจากใครๆ เป็นผ้มอบให้ ตอบได้อย่างเตมปากทเดียวว่า
ู
ี
็

