Page 133 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 133
131
แนวตง้ั รับขา้ มคาบสมทุ รเกาหลี วนั ท่ี 23 มิ.ย. 1951 โซเวียตเสนอให้มกี ารหยุดยงิ ในระยะหกเดือนในการสู้รบ
จีนคอมมิวนิสต์ได้รับความเสียหายอย่างมากมาย สูญเสียทหารประมาณ 200,000 คน และยุทโธปกรณ์เป็น
จำนวนมหาศาลกองทัพอากาศสหรฐั โจมตอี ย่างหนักจนไม่สามารถใช้สนามบินทางใต้ของแมน่ ้ำยาลูได้ผู้แทนทั้ง
สองฝ่ายประชมุ กันทเี่ คซองในเดอื น ส.ค.-พ.ย. 1951 กองทหารของแวนฟลีทกวาดล้างสามเหลย่ี มเหล็ก ขับไล่
ทหารจีนถอยรน่ จากอา่ งเก็บนำ้ ฮัวซอน (Huichon) และทางรถไฟซอร์วาน-โซล ทำใหค้ อมมวิ นสิ ต์เรียกร้องให้มี
การหยุดยิงทนั ทีการเจรจาทช่ี ะงักงันมาระยะหนึง่ ก็เริม่ ต้นใหม่ในหมู่บา้ นปนั มนุ จอม ใน 12 พ.ย. 1951
ขณะที่การเจรจาที่หมู่บ้านปันมุนจอม (Panmunjon) โอ้เอ้อยู่นั้น ปฏิบัติการทางทหารย่อย ๆ ก็เกิด
ขึ้นอยู่เสมอตามแนวรบ นายพลริดจ์เวยไ์ ด้รบั แต่งตัง้ เปน็ ผู้บัญชาการกองทัพนาโต (NATO) และนายพลมารค์
ดับเบิลยู คลาร์ก (Gen. Mark W. Clark) เข้ามารบั ตำแหนง่ แทน คอมมวิ นิสตเ์ สริมสรา้ งกำลงั ของตนตลอดเวลา
ประมาณส้นิ ปี กำลังทหารของคอมมวิ นิสต์มถี งึ 800,000 คนในเกาหลี สามในส่เี ป็นทหารจีน โซเวยี ตก็สง่ ปืนใหญ่
สนามเขา้ มารวมท้ังปนื ต่อสู้อากาศยานควบคมุ การยิงด้วยเรดาร์แตก่ ารทสี่ หประชาชาติสามารถครองอากาศได้
ก็ไมถ่ ูกคกุ คามทีร่ ้ายแรงนกั
ในวันที่ 28 มีนาคม 1953 คอมมิวนิสต์ยินยอมที่จะทำความตกลงในเรื่องเชลยศึก และได้มีการ
แลกเปลีย่ นเชลยศึกคอมมวิ นิสต์ 5,800 คน กบั ทหารเกาหลีใต้ 471 คน สหรัฐ 149 คน และชาตอิ ่ืน ๆ 64 คน
ในวันที่ 10-31 มิถุนายน 1953 จีนคอมมิวนิสต์ทำการรุกครั้งใหม่อีกครั้งต่อทหารเกาหลีใต้ แต่ทำให้
สหประชาชาติเสริมกำลังต่อต้านทันที ทำให้คอมมิวนิสต์สูญเสียทหารไปประมาณ 70,000 คน การเจรจา
ดำเนินต่อไป จนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม 1953 ได้มีการลงนามในสัญญาสงบศึก แบ่งประเทศออกเป็น
เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ตามแนวเส้นขนานที่ 38 ตามเดิม เชลยศึกที่ต้องการกลับประเทศมีคอมมิวนิสต์
7,700 คน ทหารสหประชาชาติ 12,700 คน เปน็ สหรฐั 3,597 คน องั กฤษ 945 คน
ผลของการรบ
สงครามเกาหลีทำให้สหประชาชาติสูญเสียทหารไปดังนี้ ตาย 108,505 คน บาดเจ็บ 264,591 คน
ถูกจับเป็นเชลย 92,987 คน คอมมิวนิสต์เสียทหารไปประมาณ 1,600,000 คน ร้อยละ 60 เป็นทหารจีน
คอมมวิ นิสต์ เกาหลีใต้ตาย 70,000 คน บาดเจบ็ 150,000 คน ถกู จบั เป็นเชลย 80,000 คน
ในการรบทางอากาศ เครื่องบินคอมมิวนิสต์ถูกทำลาย 1,108 ครั้ง รวมมิก-15 จำนวน 838 เครื่อง
และได้รับความเสียหายอีก 1,022 เครื่อง เสียหายอย่างหนัก 177 เครื่อง สหรัฐเสียเครื่องบิน 114 เครื่อง
อตั ราการสญู เสยี มิก-15 จำนวน 13 เคร่อื ง ตอ่ เอฟ-16 หนง่ึ เครือ่ ง เครอื่ งบินสหประชาชาติทีส่ ญู เสยี เพราะถูก
ยงิ จากอาวธุ ต่อสู้ อากาศยาน ในการสนับสนุนกองกำลงั ภาคพ้นื ดนิ อย่างใกลช้ ดิ จำนวน 1,213 เครื่อง
เชลยศึก กองทัพที่ 8 ได้เผชิญกับปัญหาเชลยศึก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึง่ ในปลาย ค.ศ.1950
เมื่อกองทัพเกาหลีถูกทำลายไปแล้ว ปรากฏว่าเชลยเกาหลีเหนือที่อยู่ในความอารักขาของสหประชาชาติ มี
จำนวนถึง 100,000 คน จำนวนนไี้ ด้เพิ่มขน้ึ ตามลำดบั เมอ่ื การรบได้ดำเนนิ ต่อไป เพราะทหารเกาหลีเหนือและ
ทหารจีนคอมมิวนิสต์ได้ถูกจับเป็นเชลยเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก เชลยเหล่านี้ได้ถูกควบคุมไว้บนเกาะโคเจ
Koje ห่างจาก ปูซานไปทางตะวนั ออกเฉียงใต้ 30 ไมล์ ในปลายปี ค.ศ.1951 ความวุ่นวายได้เกิดขึ้นพวกเชลย
ศึกหลายพื้นที่ด้วย เนื่องจากเชลยศึกเป็นคอมมิวนิสต์พยายามที่จะใช้อิทธิพลครอบงำเชลยศึกที่ไม่ใช่

