Page 55 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 55
53
ขณะที่พม่ายึดเมืองนครฯ กรมพระราชวังบวรฯ ได้ยกกำลังทัพบก ทัพเรือ จำนวน 20,000 คน ถึง
เมืองชุมพรปลายเดือน 4 ปีมะเส็ง จึงมีคำสั่งให้พระยากลาโหมราชเสนา และพระยาจ่าแสนยากร นำกำลัง
ทัพบกไปยังเมืองไชยาเวลานั้นพม่าได้ไปรวมกำลงั ทเี่ มืองนครศรธี รรมราชแลว้
เม่อื พมา่ ทราบขา่ ววา่ กองทพั กรงุ เทพฯยกมาตั้งที่เมืองไชยาจึงระงบั แผนทจ่ี ะไปตีเมอื งพัทลงุ และเมือง
สงขลา เกงหวุ่นแมงยี สั่งการใหเ้ นมโยคงนะวดั ซึ่งคุมกองหน้ายกไปตกี องทพั ไทยทีไ่ ชยาส่วนเกงหวนุ่ แมงยีจะยก
กำลังหนุนกองทัพพม่ากับกองทัพไทยจึงปะทะกันที่เมืองไชยา พม่ายังไม่ทันตั้งค่ายไทยสามารถยกกำลังล้อม
พม่าไว้ พมา่ ขุดสนามเพลาะรบกนั อยจู่ นค่ำ บงั เอิญฝนตกหนกั ทัง้ สองฝ่ายยิงปนื ไมไ่ ด้ พมา่ จงึ ออกจากท่ีล้อมได้
แล้วพากันหลบหนี กองทัพไทยไลต่ ิดตามในเวลากลางคืน ฆ่าตองพยุงโบ นายทัพพม่าตายคนหน่ึง และฆ่าฟนั
ลี้พลพม่าตายเป็นจำนวนมาก พม่าถอยกระเจิดกระเจิงแบบตัวใครตัวมนั ไม่มีการบังคบั บัญชา ไทยจับเชลยได้
จำนวนมาก เกงหวุ่นแมงยแี มท่ พั ที่ 1 ของพมา่ ร้วู ่ากองหนา้ แตกแลว้ ไม่คิดสู้หนีเอาตัวรอดไปทางกระบี่แล้วเข้า
พมา่ ไป
ในที่สุดกองทัพพม่าทางภาคใต้กลับไปยังพม่าหมดสิ้น กรมพระราชวังบวรฯ จึงเสด็จไปประทับ
เมอื งนครศรีธรรมราชแลว้ บรรดาหัวเมืองประเทศราชทางภาคใตท้ ี่คิดแข็งเมืองมาตง้ั แต่คราวเสยี กรุงศรีอยุธยา
ก็กลบั มาเปน็ ขา้ ขอบขณั ฑสมี าอย่างเดมิ จึงมีรบั ส่ังให้ข้าหลวงถือหนังสอื ไปยงั พระยาปัตตานี และพระยาไทรบุรี
ใหแ้ ต่งฑตู นำตน้ ไม้เงิน ต้นไมท้ อง เขา้ มาถวายดุจดงั แต่กอ่ น
พระยาปัตตานี เมื่อได้รับหนงั สอื แล้วไม่ยอมอ่อนน้อม กรมพระราชวังบวรฯ จึงสั่งให้พระยากลาโหม
ราชเสนาและพระยาจ่าแสนยากร ยกกำลังทัพหน้าไปตีเมืองปัตตานี ส่วนพระองค์ยกทัพตามไปสงขลา
พระยาปัตตานีไม่สามารถต้านทานได้จึงพ่ายแพ้ การรบครั้งนี้ได้ปืนใหญ่ชื่อพระญาตานี (ปัจจุบันตั้งอยู่หน้า
กระทรวงกลาโหม)
พระยาไทรบุรีได้ทราบข่าวไทยตีเมืองปัตตานีได้ มีความเกรงกลัวจึงแต่งฑูตนำต้นไม้เงิน ต้นไม้ทอง
มาถวายยอมเป็นข้าขอบขัณทสีมาเช่นแต่ก่อน ส่วนปีนังหรือเกาะหมากซึ่งขึ้นกับไทรบุรีได้ให้
บริษัทอีสท์อินเดียกัมปะนีของอังกฤษเช่าปีละ 400 เหรียญ นับแต่นั้นมาเกาะปีนงั ก็มิได้ขึ้นกับพระยาไทรบุรี
จนกระท่ังมลายเู ป็นเมอื งขึ้นของอังกฤษ
ฝา่ ยพระยาตรงั กานู และพระยากลันตนั ซึ่งมเี ขตติดต่อกับปตั ตานเี กรงกลวั ฝ่ายไทยจึงแตง่ ฑูตนำต้นไม้
เงิน ต้นไม้ทอง มาถวายสมเด็จพระราชวังบวรฯขอสวามิภักดิ์เป็นข้าขอบขัณฑสีมา ซึ่งเมืองทั้งสองหาได้เป็น
เมืองข้ึนของไทยมากอ่ นเลย
เม่ือเสร็จราชการสนามทางภาคใต้แล้วกรมพระราชวังบวรฯดำรวิ า่ พระยานครพัฒน์ และพระยาพัทลุง
แม้ทิ้งเมืองก็มิควรถือเป็นความผิดเพราะข้าศึกกำลังมากทั้งยังไม่ทราบข่าวคราวจากทางกรุงเทพฯ ให้สมควร
ดำรงตำแหน่งเดิม ส่วนพระมหาบุญช่วยนั้นแม้จะยังไม่ทันสู้กับพม่าแต่ก็มีน้ำใจน่านับถือ รักบ้านเมือง เป็น
กำลงั ใจของราษฎร พระมหาบุญช่วยสมคั รใจลาสกิ ขาบท จงึ ทรงตัง้ ใหเ้ ป็นพระยาทุกข์ราษฎร ตำแหนง่ กรมการ
เมอื งพัทลงุ สำหรับคุณหญิงจันทร์ภรรยาเจ้าเมืองถลาง และนางมุกน้องสาว เปน็ สตรีทก่ี ล้าหาญและฉลาด จึง
ตง้ั คณุ หญงิ จนั ทร์เป็นทา้ วเทพสตรี และนางมกุ นอ้ งสาวเป็นทา้ วศรสี นุ ทร

