Page 51 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 51

49

ไทยส่งกำลังมาเพ่ิมเติมทกุ วันมกี ำลังมากหนนุ เนอ่ื งมาไมข่ าดระยะ ประกอบกับการอดอาหารร่างกายออ่ นเพลีย
ซำ้ ยงั ถูกปนื ใหญก่ ระสุนไมฝ้ า่ ยไทยถล่มยงิ ตลอดเวลา ขวัญพมา่ และแม่ทพั นายกองขวญั เสียกนั หมด

      ในช่วงนี้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงวิตกวา่ กำลังของพระอนชุ าเกรงจะสู้พม่าไม่ได้
จึงยกกองทัพหลวงออกจากกรงุ เทพฯ เมอื่ วนั อาทติ ย์ เดือนย่ี ขน้ึ 9 คำ่ เม่อื ไปถึงคา่ ยของสมเดจ็ พระราชวังบวร
ได้สนทนาปราศรัยกันพอสมควร กรมพระราชวังบวรกราบทลู ว่าอย่าได้ทรงวิตกทางลาดหญ้าเลย ขอให้เสด็จ
กลบั พระนครเถิด เผ่ือข้าศกึ หนักแน่นมาทางอืน่ จะไดใ้ ช้กองทพั หลวงแก้ไขเหตุการณ์ เพราะทางน้ี (ลาดหญ้า)
ข้าศึกอดอยาก ขวัญเสียมาก กำลังจะหาโอกาสที่ข้าศกึ อ่อนกำลังจะเข้าโจมตีพรอ้ มกันโดยฉับพลัน เชื่อมั่นวา่
ข้าศึกต้องแตกพ่ายเป็นแน่แท้ เมอ่ื พอพระราชหฤทัยพระพทุ ธยอดฟา้ ฯ กเ็ สดจ็ ยกกองทัพกลบั คนื พระนคร

      ครั้นถึงวันศุกรท์ ี่ 17 ก.พ. 2328 กรมพระราชวังบวรฯ พิจารณาเห็นวา่ ข้าศึกอ่อนกำลังมากและขวัญ
เสยี จงึ สง่ั ทกุ หนว่ ยเข้าตีพมา่ ตลอดแนวโดยฉับพลนั เปน็ การเข้าตีตรงหน้าต่อแนวพม่า เป็นการดำเนินกลยุทธ์
การเข้าตีทางเส้นใน ความจริงการเข้าตีทางเสน้ ในมิได้เป็นกลยุทธท์ ี่พิสดารมากนัก ความหมายแท้จรงิ คอื การ
เขา้ ตภี ายในแนวขา้ ศึก แต่ทย่ี กยอ่ งกนั มากก็คือเป็นการเปน็ การเขา้ ตีตอ่ หนา้ ข้าศกึ ซ่ึงต่างกบั การโอบคอื การเข้า
ตีทางเส้นนอก อาจทำโดยขา้ ศกึ มิรู้ตัว ความยากในการเขา้ ตเี ส้นใน (เข้าตีตอ่ แนวข้าศกึ ) จะกระทำดว้ ยวิธีจู่โจม
ขณะขา้ ศกึ อ่อนกำลัง เสยี ขวญั หรอื จดุ ออ่ นแอของข้าศึก

      เนือ่ งจากพม่าขวัญเสียและอ่อนกำลัง กองทพั ท่ี 4, 5 ของพมา่ จึงแตกกระเจงิ ถอยไม่เป็นขบวน ไทยได้
ไล่ติดตามฆ่าฟนั พมา่ ล้มตายเป็นอันมาก ที่เหลือรอดตายหนีไปทางหนว่ ยซุ่มโจมตีของพระองค์เจ้าขุนเณรฯ ก็
เขา้ ตซี ้ำเติม จบั เชลยพมา่ มาถวายกรมพระราชวงั บวรฯ เป็นจำนวนมาก พระเจา้ ปดุงทราบข่าวจงึ สั่งให้กองทัพ
ทงั้ หมดถอนกำลงั และถอยไปยังเมืองเมาะตะมะ

      การยุทธของกรมพระราชวังบวรฯ ครั้งนี้เป็นการดำเนินกลยุทธ์การตั้งรับแบบคล่องตัว (MOBILE
DEFENCE) คือระยะแรกวางกำลังตั้งรับก่อนโดยแนวตั้งรับต้องมีความเข้มแข็ง (มั่นคง) เมื่อข้าศึกเข้าตีตรง
จุดอ่อน คือที่ด่านกรามช้าง ข้าศึกไล่ติดตาม กองรักษาด่านรบจึงเข้าไปรวมกับกำลังกำลังส่วนใหญ่ซึ่งได้
เตรียมการตอ่ ต้านข้าศกึ ไว้แล้วขา้ ศึกจงึ ถูกบงั คับใหข้ ้นึ ไปอยบู่ นเขา ณ ทนี่ เี้ องทำใหข้ ้าศกึ ถูกทำลายอย่างยอ่ ยยับ
เป็นการเข้าไปอยู่ในพื้นที่สังหาร (KILLING ZONE) ซึ่งฝ่ายเราเลือกไว้ ในโอกาสนั้นจึงกลับทำการรุกอย่าง
ฉบั พลัน เป็นการตง้ั รับแบบคลอ่ งตัวการต้งั รับแบบนส้ี ถาบนั วชิ าทหารศกึ ษากันเมื่อหลังสงครามโลกครั้งท่ี 2 แต่
กรมพระราชวังบวรฯไดก้ ระทำสำเรจ็ ในสงครามที่ทุ่งลาดหญา้ แล้ว

       2. การรบที่เมอื งราชบรุ ี กองทพั ที่ 2 ของพมา่ เขา้ ท่ีชุมพลที่เมืองทวาย อนอกแฝกเป็นแม่ทัพใหญ่ให้
พระยาทวายกำลัง 3,000 คนเป็นกองหน้า อนอกแฝก เป็นกองหลวง กำลัง 4,000 คน จิกสิบโบเปน็ กองหนุน
ทำหนา้ ทกี่ องระวงั หลงั กำลัง 3,000 คน รวมกำลงั ทั้งหมด 10,000 คน ยกเข้าทางด่านบอ้ งตี้ ตอ้ งเดินข้ามเขา
ซึ่งทุรกันดาร ทำให้การเคล่ือนกำลังล่าช้าเสียเวลารอกนั เป็นระยะๆ ในที่สุดพระยาทวายมาต้ังค่ายที่นอกเขางู
(รางหนองบัว) อนอกแฝก วางกำลังท่ีบรเิ วณห้องชาตรี จิกสบิ โบ กองหนุน วางกำลงั รมิ นำ้ ภาชี โดยไม่รู้ว่าพม่า
ทลี่ าดหญา้ แตกแลว้
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56