Page 52 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 52

50

      ฝ่ายไทย เจ้าพระยาธรรมา และพระยายมราชได้วางกำลังไว้ที่ราชบุรีก่อนแล้ว แต่มิได้จัดหน่วย
ลาดตระเวนหาข่าว จึงไม่ทราบว่ากองทัพพม่าเข้ามาถึงลำน้ำภาชี และหลังเขางู ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ทราบว่า
กำลังของข้าศึกได้เข้ามาตั้งค่ายอยู่แล้ว สรุปคือแม่ทัพทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายพม่าไม่ได้เรื่องด้วยกันทั้งสองฝ่าย
เมอ่ื กองทพั พมา่ ท่ที ุ่งลาดหญา้ แตกและถอยออกนอกราชอาณาเขตแล้วกรมพระราชวังบวรฯทราบว่าพม่าที่เขางู
ยังมิได้ถอยไป จึงให้พระยากลาโหมและพระยาจ่าแสนยากร คุมกองทัพเขา้ ตพี ม่าซึ่งตัง้ อยู่นอกเขางู รบพุ่งกัน
จนถึงขั้นตะลุมบอน พม่าไม่สามารถต้านทานได้ ทั้งกองหน้าและกองหลวงแตกกระเจิดกระเจิง ฝ่ายไทย
ไล่ติดตามปะทะกับกองหลัง (กองหนุน) จึงไล่ฆ่าฟันแตกระส่ำระสาย จับเชลย ศาสตราวุธ ช้าง ม้า พาหนะ
จำนวนมาก ท่เี หลือรีบถอยไปยังทวาย

      ครั้งพม่าถอยไปแล้ว กรมพระราชวังบวรฯ จึงสั่งให้นำพระยาธรรมา และพระยายมราชมาสอบสวน
และสงั่ ใหป้ ระหารชวี ติ แต่สมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกขอชวี ิตไว้ จงึ ใหถ้ อดยศและโกนหัวประจานรอบค่าย
ท้ังนี้เพ่อื มใิ ห้เปน็ เย่ยี งอย่างแก่แมท่ ัพนายกองคนอน่ื ต่อไป

      3. การรบที่ปากพิง ทางภาคเหนือพม่าไดม้ อบให้กองทพั ที่สามและกองทพั ที่เก้า ตีภาคเหนือของไทย
แลว้ จับเชลยมาสมทบกบั กองทัพหลวงท่ีกรงุ เทพฯ

      กองทัพท่ีสามของพม่าเจ้าเมอื งตองอูเป็นแม่ทัพ เขา้ ทีช่ ุมพลเชยี งแสนให้เนมะโปสีหปติคุมกำลงั 5,000
คน ยกมาทางแจ้ห่มมีภาระกิจตเี มอื งสวรรค์โลก – สุโขทยั เมอื งพิชัย – พษิ ณโุ ลก สว่ นเจ้าเมืองตองอู เป็นกอง
หลวงคุมกำลัง 15,000 คน ยกมาทางเชียงใหม่ โดยมี โปมะยุง่วน เป็นกองหน้ามีกำลัง 3,000 คน ขณะนั้น
เชียงใหม่ร้างมาตั้งแต่พม่ายกมาตีสมัยเจ้ากรุงธนบุรี พ.ศ.2319 เจ้าเมืองตองอูจึงนำกำลังมาตีเมืองลำปาง
พระยากาลวิละเจา้ เมืองนครลำปางซงึ่ มีความเข้มแข็งในการสงครามสามารถรักษาเมอื งไว้ได้ พมา่ ไม่สามารถตี
เมืองลำปางได้คงวางกำลังล้อมอยู่ ส่วนสวรรคโลกและหัวเมืองฝ่ายเหนือบ้านเมืองเสียหายยับเยินคราวศึก
อะแซหวุ่นก้ีจึงไมม่ ีกำลังทีพ่ อจะสูพ้ ม่าได้ เจ้าเมืองอพยพราษฎร หนีเข้าป่า กองทัพเนมะโปสีหบติ ที่ยกลงมา
ทางแจ้หม่ จงึ ไดห้ วั เมอื งเหนือทั้งปวงตลอดถึงพษิ ณุโลก

      กองทัพที่เก้า จอช่องนรทา เป็นแม่ทัพคุมกำลัง 5,000 คนเข้ามาทางด่านแม่ละเมาได้โดยสะดวก
พงศาวดารพม่าว่าเจ้าเมืองตากยอมอ่อนน้อมโดยดีพม่าจึงส่งเจ้าเมืองตากพร้อมด้วยครอบครัวและข้าราช
บรพิ าร 500 คนไปยงั เมอื งพม่า จอชอ่ งนรทาจึงตงั้ ค่ายทบ่ี า้ นระแหง แขวงเมอื งตาก เพื่อรอใหเ้ จ้าเมอื งตองอูยก
กำลังมาหนุน เพ่อื วางกำลังเข้าตีกองทัพไทยทีพ่ ิจติ ร – นครสวรรค์ – และลงไปสมทบกบั ทพั หลวงทก่ี รงุ เทพฯ

      กรมพระราชวังหลัง เมื่อทราบพม่าล่วงล้ำดินแดนไทยสองทางจึงทรงจัดกองทัพเพื่อต่อสู้จึงทรงจัด
กองทพั เพอ่ื ต่อสู้ยบั ยั้งเป็น 3 กองทพั ให้

        - เจา้ พระยามหาเสนา เป็น กองทพั หนา้ รกั ษาเมอื งพิจิตร
        - กรมพระราชวงั หลัง รกั ษาเมอื งนครสวรรค์
        - พระยาคลังกับพระยาอุไทยธรรม เปน็ กองหนุน รกั ษาเมอื งชยั นาท ป้องกันพมา่ ทม่ี าทางอทุ ยั
      ความมุ่งหมายของกรมพระราชวังหลงั คือตรึงข้าศึกมิให้ยกกำลังเข้ากรุงเทพได้ ขณะที่ไทยกบั พม่ารบ
กันอยู่ที่ทุ่งลาดหญ้า และกรมพระราชวังหลังไม่ทราบว่าข้าศึกมีกำลังหนุนมากน้อยเพียงใดจึงตั้งมั่นอยู่ท่ี
นครสวรรค์ ไมย่ กกำลงั ไปรบกับพม่าทีป่ ากพงิ และบ้านระแหงจึงไมม่ กี ารรบในช่วงน้ี
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57