Page 92 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 92

90

คราวนี้ถือเป็นการต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่วใน 4 กันยายน ค.ศ.1939 นายกรัฐมนตรีเซมเบอร์เลน
(Chamberlain) ได้พูดทางวิทยุกระจายเสียงกับประชาชนเยอรมันว่า “ในสงครามคราวนี้ เราไม่ได้สู้กับท่าน
ประชาชนเยอรมนั ผซู้ ง่ึ เราไม่มีความรู้สกึ ขมขนื่ ดว้ ยเลย หากแต่สูร้ บกับระบอบการปกครองทกี่ ดข่ีและมีแต่การ
ประหัตประหารกัน” อังกฤษและฝรั่งเศสไดป้ ฏิเสธข้อเสนอสันตภิ าพของฮติ เลอร์ หลังจากที่ยึดโปแลนด์ โดย
ประกาศว่า “เราไม่มีเจตนาจะกีดกันเยอรมันไม่ให้อยู่ในที่อันมีสิทธิโดยชอบธรรมในยโุ รป ซึ่งจะอยู่อย่างเป็น
มติ รและเช่ือม่ันกับชาตอิ นื่ ๆ… เราไมไ่ ดเ้ ขา้ สสู่ งครามน้ีด้วยเจตนาทีจ่ ะล้างแคน้ แต่เพียงเพื่อจะป้องกนั เสรีภาพ
เทา่ นัน้ ”

      ตอ่ มาเมอ่ื 10 พฤษภาคม ค.ศ.1940 Sir Winston Churchill ได้เปน็ นายกรัฐมนตรี และ
รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงกลาโหม ทำให้การทำสงครามอยู่ในอำนาจหนา้ ที่ของเซอร์ซิลล์อยา่ งสมบูรณ์ และท่าน
ก็ได้ทำหน้าที่ในการทำสงครามอยา่ งดีเด่น เซอรซ์ ิลมคี ุณสมบตั ิตามท่นี โปเลียนกล่าวไว้ว่า “คุณสมบัตปิ ระการ
แรกของแม่ทัพ กค็ ือ จะต้องมคี วามสุขมุ เยือกเยน็ ทีจ่ ะไดร้ บั ทราบเรอ่ื งราวตา่ ง ๆ อยา่ งถกู ตอ้ งตามความจรงิ
ไม่ตน่ื เต้นหรืองนุ งง เพราะขา่ วดหี รอื ขา่ วรา้ ย”

      หลังจากท่เี ข้ารบั ตำแหนง่ นายกรัฐมนตรีได้ 3 วัน เซอรซ์ ิลไดแ้ ถลงนโยบายในการทำสงครามว่า “เม่ือ
ทา่ นถามว่านโยบายของเราคืออะไร ข้าพเจ้าจะตอบวา่ คอื เราจะทำสงครามทางทะเล ทางบก และทางอากาศ
ด้วยแสนยานุภาพทั้งหมดของเรา และกำลังทั้งหมดที่พระเจ้าสามารถให้เราได้ จะทำสงครามต่อสู้กับการ
ปกครองอย่างกดขี่โหดร้าย ไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นอาชญากรรมของมนุษยชาติทีป่ ่าเถื่อนและน่าเสียใจนั่น
คอื นโยบายของเรา เมอื่ ท่านถามวา่ จุดหมายของเราคืออะไร ข้าพเจ้าตอบได้ด้วยคำ ๆ เดียว คอื ชยั ชนะ เป็น
ชัยชนะที่ได้มาด้วยการสูญเสียทั้งมวล แม้จะด้วยความสยดสยองทั้งปวง อย่างไรก็ตาม ถนนที่ไปสู่ชัยชนะ
อาจจะยาวและยากลำบาก ถ้าปราศจากชยั ชนะ ก็จะไม่มีการอยูร่ อด ดงั น้นั จงมา เราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกนั
ดว้ ยกำลังทร่ี วมเป็นอันหนึง่ อนั เดียวกนั ”

      3. การบุกยุโรปของฝ่ายอักษะ ผลการปฏิบัติการของกำลังหน่วยรถถังในสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี
ค.ศ.1918 ได้ให้แนวความคดิ ในการใช้รถถงั แก่แมท่ พั เยอรมันในสงครามโลกครง้ั ที่ 2 นี้ นายพล ไฮนซ์ กูเดเรยี น
(Heinz Guderian) แม่ทัพกองทัพน้อยเยอรมันเชื่อว่า กองบัญชาการของข้าศึกจะเป็นอัมพาตไปโดยสิ้นเชิง
โดยการเขา้ ตีบดขย้แี นวหนา้ แลว้ ผ่านไปอยา่ งฉับพลันทนั ที ซ่ึงแทท้ ่จี ริงแล้ว แนวความคิดนเี้ ป็นกลยุทธ์การเข้า
หาขา้ ศึกทางออ้ ม แทนทจี่ ะทำการเข้าตตี รงหน้าดังเดิมน่นั เอง แตว่ ธิ กี ารแตกต่างกันออกไป

      เมื่อกองทัพน้อยยานเกราะที่ 19 ของกูเดเรียนรุกไปถึงซีดาน (Sedan) บนฝั่งแม่น้ำ Mense แล้วยัง
เหลืออีก 160 ไมล์ ก็จะถึงช่องแคบอังกฤษ จุดหมายของการดำเนินกลยุทธ์จึงเป็นที่ประจักษ์ว่า เยอรมันทำ
สงครามสายฟ้าแลบ โดยใช้ความคล่องแคล่วรวดเร็วเป็นอาวุธทางจิตวิทยา ไม่ได้หวังที่จะสังหารข้าศึก แต่
ต้องการที่จะเคลื่อนที่รุดไปข้างหน้า เพื่อให้เกิดความหวาดกลัว ทำให้ข้าศึกงงงวย อกสั่นขวัญหาย สงสัยและ
สับสนในพื้นที่เขตหลัง ซ้ำข่าวการบุกรุดหน้าอย่างรวดเร็วกระจายออกไป จนเกิดการตกใจกลัวกันอย่าง
กว้างขวาง จุดหมายที่ต้องการทำให้เป็นอัมพาตไปนั้น ไม่ใช่เฉพาะแต่กองบัญชาการของข้าศึกเทา่ นั้น หากแต่
ยงั เป็นรฐั บาลของประเทศข้าศกึ อีกด้วย
   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97