Page 93 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 93

91

      กำลังของเยอรมันที่บุกฝรั่งเศส เมื่อพฤษภาคม ค.ศ.1940 ได้จัดเป็น 3 หมู่กองทัพ A, B และ C
หม่กู องทพั A และ B อยูท่ างเหนือ หมกู่ องทพั C ทำการตรงึ แนวมายโิ นดไ์ ลร์ (Maginot line) ไว้ หม่กู องทัพ A
มี 3 กองทัพ เรียงจากขวาไปซา้ ย ด้วยกองทัพที่ 4 กองทัพที่ 12 และกองทัพที่ 16 กองทัพที่ 4 มีกองพลยาน
เกราะที่ 5 และที่ 7 ขึ้นอยู่ กองพลยานเกราะที่ 6 และที่ 8 รวมเป็นกองทัพน้อยที่ 41 พลเอกไรน์ฮาดด์
(Reinhardt) เป็นแม่ทัพ กองพลยานเกราะที่ 1, 2 และ 10 รวมเป็นกองทัพน้อยที่ 19 พลเอกกูเดเรียน
(Guderian) เป็นแม่ทัพ สองกองทัพน้อยยานเกราะนี้ขึ้นต่อ พลเอกฟอนไคสต์ (Vonkarl) รวมพลอยู่ในพื้นที่
ของกองทพั ท่ี 12 เป็นกำลังหัวหอกที่จะบกุ โจมตี

      ใน 10 พฤษภาคม ค.ศ.1940 ได้เร่ิมทำการเข้าตี รงุ่ ขนึ้ กองระวงั ปอ้ งกันของฝรัง่ เศสที่ปา่ Ardennes ก็
ถูกขับไล่ถอยไปทางตะวันตก 12 พฤษภาคม กูเดเรียนโจมตีและยึดเมือง Bouillon ได้ และก่อนค่ำ กองทัพ
น้อยยานเกราะที่ 19 ของกเู ดเรยี น ก็ไปถงึ ฝง่ั ตะวนั ออกแมน่ ้ำ Meuse ทเ่ี มอื ง Sedan ขณะท่ีกองทัพนอ้ ยยาน
เกราะท่ี 41 เขา้ ประชิดเมอื ง Montherme และกองพลยานเกราะท่ี 7 ของรอมเมล (Rommel) รกุ ไปถึงเมอื ง
Houx ใน 13พฤษภาคม กำลงั ของเยอรมันก็ขา้ มแม่นำ้ Meuse ได้ โดยใชเ้ คร่อื งบนิ ดำท้ิงระเบดิ โจมตีกำบังให้
การรุกได้เริ่มขึ้นใหม่ใน 16 พฤษภาคม หลังจากนั้นเป็นการรุกแข่งกันไปให้ถึงช่องแคบอังกฤษ พอถึง 20
พฤษภาคม เมอื ง Montreuil, Doullens, Amiens และ Abbeville กถ็ ูกยึดหมด เสน้ ทางคมนาคมขององั กฤษ
ถูกตดั ขาด ไมม่ ีการต้านทานตามทางทไี่ ปสู่ทา่ เรือที่ช่องแคบเยอรมนั ใชเ้ วลา 11 วนั วดั การรุกได้ 220 ไมล์ ตัด
การตดิ ตอ่ สื่อสารของกองบัญชาการองั กฤษและฝรั่งเศส ใหเ้ ป็นอัมพาตไป เยอรมนั ได้ประสบผลสำเร็จอย่างดี
ยิ่งในสงครามสายฟ้าแลบ โดยอาศัยความเร็วในการเคลื่อนที่ การจู่โจม และการประสานการปฏิบัติระหว่าง
กำลงั ทางบกกบั ทางอากาศ อยา่ งไม่เคยปรากฎมาก่อน ขณะที่ใชก้ ารโฆษณาชวนเช่อื โหมกระพือขา่ วให้เกิดการ
สบั สนและเสียขวญั ทงั้ ในสนามรบและแนวหลัง

      4. การยุทธในแอฟรกิ า
      เยอรมันกับอิตาลีมุง่ หมายที่จะเข้าครอบครองอียิปต์และคลองสเุ อช โดยอิตาลีได้เปดิ ฉากการรกุ จาก
ลิเบียไปหาอียิปต์ ในกันยายน ค.ศ.1940 กำลังของอิตาลีมากกว่าอังกฤษที่ป้องกันรักษาอยี ิปต์ แต่ไม่มีความ
คล่องแคล่ว ยานยนต์มีจำกัดดำเนนิ กลยุทธ์ไม่ได้และขาดการจู่โจม เมื่อทำการรกุ ไปในทะเลทรายได้เพียง 70
ไมล์ ก็ตอ้ งหยดุ อยทู่ ี่ไซได บารานไน (Sidi Barrani) ถงึ 2 เดือน อังกฤษพยายามป้องกนั โดยการเข้าตีแล้วถอย
ด้วยกองพลยานเกราะที่ 7 และกองพลทหารราบที่ 4 อินเดีย เมื่อเข้าตีแล้ว กองพลอินเดียได้ถอยกลับไปท่ี
ซดู าน (Sudan) เพ่อื ปอ้ งกันการโจมตีของอติ าลี ทีอ่ ยใู่ นอรี ิเตรยี (Eritrea) และ อาเบียซินสิ Abyssinis ต่อมาใน
9 ธันวาคม อังกฤษได้เข้าตีโอบอิตาลี จับเชลยได้ 35,000 คน กำลังของอิตาลีที่ไม่ถูกจับต้องถอยไปบาร์เดีย
(Bardia) บางส่วนได้ถอยไป Benghazi แล้วไปยังทริโปลี (Tripoli) โดยถูกกองพลยานเกราะท่ี 7 ไล่ติดตามไป
ถึงเบนกาซี (Benghazi) ใน 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.1941 และทำการโจมตีจนกำลังอิตาลียอมแพ้ ถูกจับเป็นเชลย
21,000 คน ในตอนนี้กำลังส่วนหนึ่งของ Afrika Korps เยอรมันไดเ้ ดินทางไปถึงทริโปลี (Tripoli) แต่ไม่ทันที่
จะช่วยอิตาลีได้ กำลังกองทัพน้อยยานเกราะในบังคับบัญชาของ นายพลเออรว์ นิ รอมเมล (Erwin Rommel)
น้ี ไดท้ ำการยุทธอยูใ่ นแอฟริกาเหนอื นานถึง 2 ปกี วา่
   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98