Page 95 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 95
93
การยกพลขึ้นบกยุโรปของฝ่ายพันธมิตรที่จะกระทำสะดวกขึ้น แอฟริกาเหนือจึงเป็นเหยื่อทางยุทธศาสตร์
ประกอบกับการบุกโซเวียตของเยอรมนั ทำให้ฮิตเลอรพ์ ลาดท่าเสียที เช่นเดียวกบั ที่สเปนเป็นเหยือ่ ให้นโปเลียน
พลาดมาแล้ว แนวรบของเยอรมันยาวเหยียดจากแอฟรกิ าเหนือจนถงึ โซเวยี ต การทำศึกหลายด้านทห่ี ่างไกลกัน
เช่นนี้ ทำใหค้ วามฝันของฮิตเลอรต์ อ้ งสลายลงแบบเดียวกบั นโปเลยี น
การยุทธในปี ค.ศ.1943 ที่ Tunisia ได้เริ่มขึ้นอีก โดยเยอรมันเป็นฝ่ายตีโต้ตอบก่อน ทำให้ฝ่าย
พันธมิตรถึงกับตกตะลึง เพราะตอนนั้นฝ่ายพันธมิตรมีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 2 กองทัพ กองทัพที่ 1 ของอังกฤษ
สหรัฐฯ ที่ตะวันตก และกองทัพที่ 8 ของอังกฤษ ที่อยู่ทางตะวันออก จะโจมตีเข้าบีบกำลังของเยอรมันเสีย
เม่ือไรกไ็ ด้ แตท่ างฝ่ายเยอรมนั กไ็ ด้รับกำลงั เพิ่มเตมิ จดั เป็นกองทพั ข้ึนมาเหมือนกนั รอมเมลตั้งใจจะใช้กลยุทธ์
ทางเส้นในแบบนโปเลยี น ที่ทุ่มกำลังเข้าตีข้าศกึ ทีละกองทัพให้แตกพา่ ยไป แผนของรอมเมลนับว่าหลักแหลม
ทีเดียว แต่การปฏิบัตติ ามแผนกลบั เกิดปัญหายุ่งยาก เพราะกำลังส่วนหนึ่งของอติ าลีท่ใี ช้ดำเนนิ กลยุทธ์ไม่ได้อยู่
ในความควบคุมของรอมเมล การเข้าตี Thala จึงล้มเหลว รอมเมลต้องถอนตัวจากการเข้าตี พอวันรุ่งขึ้นได้มี
คำสั่งจากโรม ให้กำลงั ฝ่ายอักษะท้ังหมด ข้นึ ในบังคับบญั ชารอมเมล แตก่ ส็ ายไปเสียแลว้ รอมเมลเข้าตีอีกคร้ัง
จากแนว Mareth ใน 6 มนี าคม ค.ศ.1943 แต่ตอนนี้ มอนต์โกเมอรี มีรถถงั ถงึ 400 คนั กบั ปืนใหญ่ต่อสู้รถถัง
กว่า 600 กระบอก การเข้าตีครัง้ น้ี เยอรมันเสียรถถังไป 50 คัน ทำให้เสียเปรยี บในการยทุ ธที่จะกระทำต่อไป
พอดกี บั รอมเมลป่วยตอ้ งกลับไปยโุ รป
การรุกของกองทัพน้อยที่ 2 ของสหรัฐฯ ของ นายพลยอร์ช เอส แพตตัน (Gen George S. Patton)
เมอื่ 17 มนี าคม ท่ีลม้ เหลว เพราะถูกต้านทานหยดุ อยทู่ ชี่ ่องเขา ทำใหเ้ ยอรมนั พยายามจะทำการรุกบ้าง แตก่ ็ไม่
สำเรจ็ และเสยี รถถงั ไปอกี 40 คนั เป็นเหตใุ ห้กำลงั ออ่ นลงไปอีก ยากแก่การต้านทานการรุกของมอนต์โกเมอร่ี
กองทัพที่ 8 ได้เริ่มเข้าตีแนว Mareth ในคืน 20 มีนาคม ทำให้เยอรมันต้องชิงละท้ิงที่มั่นในแนวนี้ โดยไม่เสีย
กำลังไปมากนัก เยอรมนั ไดท้ ำการรบหน่วงเวลาเป็นขน้ั ๆ ไปยังตนู สี (Tunis) ซึง่ คาดวา่ จะต้านทานต่อไปได้อีก
นาน และอาจจะถอนกำลังออกจากแอฟริกา กลับไปยังซิซิลี (Sicily) เลยก็ได้ การถอยของกองทัพยานเกราะ
แอฟริกาของรอมเมลจาก El Alamein ถึง Tunis เป็นระยะทาง 2,000 ไมล์นี้ นับได้ว่าเป็นการปฏิบัติการท่ี
ดเี ด่นในประวัติศาสตรก์ ารสงคราม เยอรมนั ไดต้ า้ นทานการรกุ ล้อมเข้าโจมตีของฝ่ายพนั ธมติ ร ทัง้ ทางเหนือและ
ใต้อยา่ งทรหด ใน 7 พฤษภาคม กองพลยานเกราะของอังกฤษก็เขา้ เมือง Tunis ได้ ทหารเยอรมนั กวา่ 250,000
คน ถูกจับเปน็ เชลย
สาเหตุของการพ่ายแพ้ของเยอรมันในตอนสุดท้ายนี้ เนื่องจากอาวุธยุทโธปกรณ์เสียหาย เพราะการ
โจมตีทางอากาศและการโอบล้อมเข้าด้านหลังแนวรบโดยหน่วยรถถัง การติดต่อสื่อสารถูกตัดขาด ทำให้เกิด
การเสียขวญั อยา่ งมาก ประกอบกับขาดกำลังกองหนนุ การที่ฐานทัพเยอรมนั ตง้ั อย่ใู กล้กับแนวที่มัน่ ตงั้ รับ ซงึ่ ถกู
เจาะเข้าไปได้ กเ็ ป็นอกี สาเหตหุ นงึ่ ทีท่ ำให้เยอรมนั ต้องพา่ ยแพ้ เพราะทหารในฐานทัพพากนั แตกตน่ื โดยเฉพาะ
อยา่ งยิ่งเมอ่ื ขา้ งหลังพวกเขาเป็นทะเลท่ฝี า่ ยพนั ธมติ รครองอยู่ รวมทง้ั ทางอากาศด้วย
อนึ่ง ในการยุทธครัง้ สุดท้ายนี้ ฝ่ายพันธมติ รไดด้ ำเนินกลยุทธ์แบบนโปเลียนและเหมือนกับการยทุ ธท่ี
แม่น้ำ Marne ในสงครามโลกครัง้ ที่ 1 ค.ศ.1914 โดยไม่ได้ต้ังใจ กล่าวคือ ได้เข้าตีลวงทางปีกของเยอรมัน ทำ
ให้เยอรมันต้องยึดแนวรบออกไปต้านทาน และเกิดจุดอ่อนให้ทำการเข้าตีแตกหักในบริเวณอื่น การยุทธ

