Page 63 - นาวิกศาสตร์ เดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
P. 63
ั
ิ
ื
ื
ทานผูอานโดยเฉพาะอยางยิ่งทหารเรอ ที่มีความสำคญมากตอการเดนเรอ เชน แสดงที่
ั
ื่
ิ่
ั
ุ
ุ
ิ
นาจะสะดดตาและคนเคยกบชื่อเรอง อันที่จรงแลว อันตราย แสดงจดเรมเขาใกลฝง หลงจากรอนแรม
ุ
๑
ี้
ื่
ชื่อเรองนผูเขียนนำมาจาก เพลงหะเบสสมอ อยูในทะเลมาหลายๆ วัน หรือจุดที่เรือจะใชเปลี่ยน
ซึ่ง เสดจเตย หรอพลเรอเอก พระเจาบรมวงศเธอ เข็มเดินทาง คือ เปลี่ยนทิศทางที่จะเดินเรือตอไป
ื
็
ื
ี่
ี
ิ
พระองคเจาอาภากรเกยรตวงศ กรมหลวงชุมพร กระโจมไฟ (Lighted Beacon) เปนสิ่งกอสราง
ุ
ั
เขตอุดมศกดิ์ ทรงพระนพนธขึ้นเพื่อใชรองปลกใจ เหมือนกบประภาคาร แตไมมีคนเฝามักจะสรางไว
ั
ิ
ั
เหลาทหารเรือ ซึ่งเพลงนี้จะขึ้นตนวา ในที่มีความสำคญรองลงมา หรือที่มีอันตรายตอการ
ื
ื
เดนเรอ หรอสรางเพื่อเปนที่หมายใหหาตำแหนง
ิ
“หะเบสสมอพลัน ออกสันดอนไป ของเรือ
ลัดไปเกาะสีชัง จนกระทั่งกระโจมไฟ ไฟนำ (Leading Light หรอ Range Light)
ื
เที่ยวหาข้าศึก มิได้นึกจะกลับมาใน เปนเสาหลัก หรือเสาโครงเหล็กแบบเสาไฟฟาแรงสูง
ถึงตายตายไป ตายให้แก่ชาติของเรา” ตดไฟอยูดานบน สรางเปนคมีดวงหนากบดวงหลง
ู
ั
ิ
ั
ฯลฯ ซึ่งจะเรยงกนในแนวที่ตองการใหเรอแลนตรงทิศนี้
ี
ั
ื
เชน ในรองน้ำ ปากน้ำเจาพระยา เปนตน
ิ
ึ
บทเพลงนมีความหมายลกซึ้งกนใจ และยัง หลักนำ (Unlighted Beacon) เหมือนกับไฟนำ
ี้
ิ
แสดงใหเห็นถงพระอัจฉรยภาพของพระองคทาน แตไมมีไฟ ใชไดเฉพาะเวลากลางวัน ในเวลากลางคืน
ึ
ู
ึ
รวมทั้งแสดงใหเห็นถงสภาพแวดลอมของภมิ มองไมเห็น
ประเทศและยุทธวิธี ซึ่งผูเขียนจะเลารายละเอียด ทุ่นไฟ (Lighted Buoy) เปนทุนรูปตางๆ ติด
เนื้อความใหทราบในบทความฉบับตอตอไป แตตอนน หลักไฟบนยอดทุน ใชวางเปนเครื่องหมายแสดงสิ่ง
ี้
จะเลาถึงเฉพาะกระโจมไฟกอน อันตรายหรอวางกำกบรองนำไมใหเรอแลนออกนอก
้
ั
ื
ื
ึ
คำวา หะเบสสมอ หมายถง การถอนสมอ รองน้ำไปชนที่อันตราย
เพื่อออกเรอ (หะเบสเปนภาษาจาม แปลวาดงขึ้น) ทุ่นเครื่องหมาย (Unlighted Buoy) เหมือน
ึ
ื
ื
ี้
ความตอนนหมายถง ออกเรอผานสนดอนแลวนำ กับทุนไฟ แตไมมีไฟ
ึ
ั
ิ
ี
เรอไปถงเกาะสชัง จนกระทั่งกระโจมไฟและทำการ เครองหมายชวยการเดนเรอในยุคแรก ๆ นน
ื่
ื
ึ
ื
ั้
ึ
ั
ื
ิ
คนหาขาศก กระโจมไฟคออะไร และมีความสำคญ มักพบไดในยุโรป และตะวันออกใกล การเดนทาง
อยางไร บทความตอนนี้ ผูเขียนจะเลาเรื่องนใหฟงครับ หลักที่ไดรับความนิยมยุคแรก ๆ คือการเดินทางทางน้ำ
ี้
เครื่องหมายช่วยในการเดินเรือ (Aids to ซึ่งเครื่องหมายชวยการเดินทางเรือและไฟไดรับ
้
ิ
ั้
ิ
ื
ิ
Navigation) คอสงที่สรางขึ้น หรอประดษฐขึ้นเพื่อ การนำมาตดตงบรเวณชายฝงทะเล และในแมนำมา
ื
ิ่
ชวยในการอำนวยความสะดวกและเพื่อความ นานแลว แตอาจมิไดมีการบันทึกไว ซึ่งเชื่อวานาจะ
ื
ั
ปลอดภยในการเดนเรอ และอยูนอกตวเรอ ไดแก มีใชในจีนแผนดินใหญที่มีอารยธรรมเจริญกาวหนา
ั
ิ
ื
ั
ประภาคาร กระโจมไฟ ไฟนำ หลกนำ ทุนไฟ ทุน มากวา ๔,๐๐๐ ป เปนรายแรก
ิ
ั
เครื่องหมาย เปนตน ยอนกลบไปเพียงศตวรรษที่ ๔ กอนครสต
ิ่
ู
ั
ประภาคาร (Lighthouse) เปนสงกอสรางรป ศกราช ประภาคารมีลกษณะเปนหอคอยที่มีการสม
ุ
ั
่
ิ
หอคอย หรอโครงเหลก มีตะเกยงสองไฟอยูขางบน เชื้อเพลงใหเกดเปลวไฟสวางไสวในยามคำคน เพื่อ
ื
ิ
ื
ี
็
ั
ิ
ื
ั
ที่สำคญคอมีคนเฝา สวนใหญจะสรางไวในตำแหนง นำทางแกนกเดนเรอที่สญจรไปมาในทะเล
ั
ื
๑. เพลงหะเบสสมอนี้ ต่อมาได้มีการเรียกชื่อเพี้ยนไปเป็นเพลง “ดอกประดู่” ซึ่งไม่น่าจะ ตรงกับความตั้งพระทัยของพระองค์ท่าน รายละเอียดของเรื่องน ี้
ท่านจะหาอ่านได้จากบทความของคุณครู พลเรือเอก อุฬาร มงคลนาวินอดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ
นาวิกศาสตร ปีที่ ๙๖ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ 41

