Page 7 - ประวัติ พระอนุสาวรีย์ พระตำหนัก ศาลพระรูป ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากร เกียรติวงค์ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์
P. 7

ก – ๕


                        นอกจากจะมีการศึกษาในชั้นเรียนแล้ว เสด็จในกรมฯ ยังโปรดให้นักเรียนนายเรือฝึกหัดภาคปฏิบัติ
                  ื่
               เพอให้นักเรียนมีความช านิช านาญที่จะเป็นนายทหารเรือชั้นเยี่ยม โดยโปรดให้กรมยุทธโยธาทหารเรือ
               สร้างเสาธงขึ้นหนึ่งเสาตามแบบในเรือทูลกระหม่อม ประกอบด้วยพรวน ๓ ชั้น พร้อมด้วยเครื่องประกอบ
               และเชือก เสา เพลา ใบ ทรงหัดให้นักเรียนขึ้นเสา และประจ าพรวน กางใบ ม้วนใบ ลดพรวนลงดิน เอาพรวน

               เข้าติดที่ ถอดเสาท่อนบนลง เอาเสาท่อนบนขึ้น สิ่งเหล่านี้ต้องท าด้วยความระมัดระวังและล าบากมาก
                                                                                                     ื่
                                                                                 ิ
               นอกจากนั้น  ทรงจัดให้มีเรือกระเชียงไว้ฝึกหัดตีกรรเชียงแล่นใบด้วย และให้พมพแบบผูกเชือกขึ้นไว้เพอเป็น
                                                                                   ์
               ตัวอย่างในการเรียนผูกเชือกแบบต่าง ๆ ด้วย
                                                                                     ื่
                        ในทางด้านการกีฬา เสด็จในกรมฯ ได้ทรงขอครูมาจากกระทรวงธรรมการ เพอมาสอน บาร์คู่ บาร์เดี่ยว
                          ื่
               และห่วง เพอให้นักเรียนฝึกหัดจนได้ผลเป็นอย่างดียิ่ง เพราะปรากฏว่านักเรียนมีสุขภาพดีและแข็งแรงขึ้น
                    ั
               เป็นอนมาก และทุกวันพฤหัสบดีตอนบ่าย ทุกคนต้องท าความสะอาดเรียบร้อยทุกอย่าง เช่น เตียงนอน
               เครื่องสนาม หม้อข้าว หีบเสื้อผ้า ตลอดจนเล็บ ฟัน เป็นต้น
                        ในปี พ.ศ.๒๔๔๙ เสด็จในกรมฯ ได้ทรงน านักเรียนนายเรือทั้งหมด ไปฝึกหัดทางทะเลด้วยเรือยงยศ

                                                                                              ิ
                                                                                        ี
               อโยชฌิยา เรือล านี้เป็นเรือกลไฟขนาดกลาง มีเสาใบพร้อม แต่ทรงให้ติดพรวนชั้นต่ าขึ้นอกเป็นพเศษ และได้ให้
               นักเรียนขึ้นเสา ลงเสา กางใบ ถือท้าย ใช้เข็มทิศ ทิ้งดิ่ง และการเรือทุกชนิด เวลาใดที่มีคลื่นจัด เรือล านี้
               ก็จะโคลงจึงท าให้นักเรียนพากันเมาคลื่นไปตาม ๆ กัน แต่ทรงฝึกให้บรรดานักเรียนทั้งหลายหายเมาคลื่น

               โดยให้ขึ้นลงเสาจนชิน เพราะทรงถือว่า “ทหารเรือต้องเมาคลื่นไม่เป็น”การไปฝึกครั้งนี้ได้ไปทาง
                                ่
               ภาคตะวันออกของอาวไทยจนถึงจังหวัดจันทบุรี ราวหนึ่งเดือนจึงกลับ ภายใต้การบังคับบัญชาของพระองค์ท่าน
               ปรากฏผลว่าบรรดานักเรียนมีความคล่องแคล่วและเข้มแข็งในการเดินเรือเป็นอย่างยิ่ง
                        ในปี พ.ศ.๒๔๕๐ เสด็จในกรมฯ ได้ทรงน านักเรียนนายเรือ และนักเรียนนายช่างกลประมาณ ๑๐๐ คน
               ไป “อวดธง” ที่สิงคโปร์ ปัตตาเวีย ชวา และเกาะบิลลิทัน โดยเรือหลวงมกุฎราชกุมาร ล าที่ ๑ ในการเดินทาง

               ไปต่างประเทศครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก และเสด็จในกรมฯ ทรงเป็นผู้บังคับเรือเอง พร้อมด้วยนักเรียน
               และทหารประจ าเรือ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยทั้งสิ้น เสด็จในกรมฯ ได้ทรงแบ่งเจ้าหน้าที่ประจ าเรือดังนี้
                        ๑. ผู้บังคับการเรือ

                        ๒. ผู้ช่วยผู้บังคับการเรือ (คือต าแหน่งต้นเรือในปัจจุบัน)
                        ๓. ยกกระบัตร (คือฝ่ายพลาธิการ)
                        ๔. แพทย์
                        ๕. นายทหารประจ าเรือ เช่น ต้นหน ต้นปืน เป็นต้น

                        ๖. หัวหน้าช่างกล (คือต้นกล) และต าแหน่งช่างกล มีรองต้นกลและนายช่างกล
                        ในการออกฝึกและอวดธงยังต่างประเทศครั้งแรกนี้ ทรงบัญชาการฝึกนักเรียนนายเรือด้วยพระองค์เอง
               ให้รู้จักชีวิตของการเป็นทหารเรือโดยแท้จริง เป็นผู้เชี่ยวชาญการปฏิบัติการต่าง ๆ ในเรือ รู้จักหน้าที่ตั้งแต่
               พลทหารจนถึงนายทหาร นักเรียนนายเรือได้ฝึกอย่างจริงจัง เผชิญทั้งภัยธรรมชาติ ทั้งการฝึกของพระองค์

               ดังจะกล่าวให้ทราบเพียงบางส่วน เช่น ในระหว่างที่เรือแล่นจากสิงคโปร์ เรือได้แล่นลัดช่องทางเดินเรือระหว่าง
                                                                                                     ี
               เกาะแก่งมาหลายวัน ขณะที่แล่นอยู่ในระหว่างเกาะเล็ก ๆ ๒ ข้าง ปรากฏมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเรือท าให้เรือเอยงไป
               เอียงมา เสด็จในกรมฯ ซึ่งขณะนั้นประทับอยู่ท้ายเรือรีบเสด็จขึ้นไปบนสะพานเดินเรือ ทรงเปลี่ยนเข็มเบนหัวเรือ
               และลดฝีจักรเรือ รับสั่งให้ทางห้องเครื่องจักรระวังเครื่องให้พร้อมเพรียงที่สุด ขณะนั้นภายในเรือเกิดการ
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12