Page 10 - นาวิกศาสตร์ มีนาคม ๒๕๖๒
P. 10

๒ ลักษณะคือ แบบมาดี (ร่วมมือกัน) และมาร้าย (ข่มขู่  ต่อประเทศอ่อนแอกว่าเพื่อให้ปฏิบัติตาม”
                                                                            ี
                                                                     �
              หรือบังคับ) ชื่อเปลี่ยนแต่พฤติกรรมไม่เปลี่ยนมากนัก     จากคานิยามท่เลือกมาแสดงให้เห็น พอจะเข้าใจ
                                                       ื
                   �
                                           �
                  กาลังรบทางเรือมีข้อได้เปรียบกว่ากาลังรบประเภทอ่น   ลักษณะการทูตทางเรือได้ดังนี้
              ในบริบทของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ต้องกังวล      - กิจกรรมของกาลังรบทางเรือมีเจตจานงให้เกิด
                                                                                              �
                                                                              �
               ื
                        �
                                          ื
                        ้
              เร่องการล่วงลาอาณาเขตของประเทศอ่น ๆ มีความคล่องตัว   อิทธิพลต่อชาติอื่น
                                           ี
                                                                                      ี
                                   ั
              สามารถปฏิบัติการได้เกือบท่วโลกหรือท่เราเรียกว่าเสรีภาพ      -  ขอบเขตของกิจกรรมท่เป็นการทูตทางเรือ
              ในการเดินเรือ (Freedom of Navigation) ในยามสงบ  ค่อนข้างกว้าง
                                                                        ่
                                   ี
              มีอิสระทางการเมืองและเส่ยงอันตรายจากความขัดแย้ง     - ระดับตา (Lower Level) ของกิจกรรม โดย
                                                                        �
                             ิ
                                 ิ
               ่
              ตามาก แต่ในยามวกฤตหรอยามท่มความขัดแย้งอาจมี   ธรรมชาติแล้วนุ่มนวล (ในทางดี)
               �
                                   ื
                                         ี
                                          ี
                  �
              ข้อจากัดบ้าง ซ่งแล้วแต่พ้นท่ซ่งมีความละเอียดอ่อน     - ระดับสูง (Upper Level) ของกิจกรรมเกือบถึง
                           ึ
                                       ึ
                                   ื
                                      ี
                                                                �
              ทางการเมืองต่างกัน                            ข้นทาสงคราม (ในทางร้าย) ระดับน้ยากต่อการกาหนด
                                                              ั
                                                                                        ี
                                                                                                  �
                  การทูตทางเรือได้รับการเช่ออย่างแพร่หลายว่า   รายละเอียดของความรุนแรง เช่น ตรงจุดไหนควรถือว่า
                                        ื
                                                                    �
                                                                                                    �
                                                                                   �
                                                                      ี
                                      ื
               �
              ทาให้อ�านาจทางทะเลเป็นเคร่องมือในการป้องปราม   การกระทาท่รุนแรงกลายเป็นทาสงคราม หรือเฉพาะลาพัง
                                                                       ี
                                                                                    �
              (Deference) และการบังคับ (Coercion) มีประสิทธิภาพ   ความรุนแรงท่เกิดข้นไม่ถือว่าทาสงคราม หรือหากเป็น
                                                                            ึ
                                                                 ั
              James Cable ให้ค�าจ�ากัดความว่า               เช่นน้นกิจกรรมดังกล่าวมีความชอบธรรมจัดเป็นการ
                  “การทูตเรือปืนเป็นการใช้หรือคุกคามด้วยกาลังรบ   ทูตอีกหรือไม่
                                                   �
                              ี
                         �
                                                       ื
                                             �
              ทางเรือแบบจากัดท่นอกเหนือจากการทาสงคราม เพ่อ      ความแตกต่างระหว่างการป้องปรามกับการบังคับ
                                                                                                      �
                                                   ี
                                                     ั
                                                     ้
                                                                                                ึ
                                                                                        ั
                                               ู
                             ี
               �
                                  ื
              ดารงความได้เปรยบหรอปัดเป่าความสญเสยทงใน       การป้องปรามมีวัตถุประสงค์สกัดก้นชาติหน่งไม่ให้ทา
                                                                     ึ
                                                              ิ
                                                                  ิ
                                                                                           �
                                                                           �
              ความขัดแย้งระหว่างประเทศต่อไปภายหน้าหรือต่อ   ส่งใดส่งหน่ง โดยทาให้รู้สึกว่าหากกระทาแล้วความเสีย
                                                                                      ี
                                                 �
              ต่างชาติท่อยู่ในอาณาเขตของเราหรือเขตอานาจศาล  หายและค่าใช้จ่ายสูงกว่าประโยชน์ท่จะได้รับ การป้องปราม
                      ี
                                                                                            ั
                                                                          �
                                                              ี
              ของเรา”                                       เก่ยวข้องกับเจตจานงและความคิด ไม่ย่วยุให้เกิดการ
                                                                                ื
                                                                          ี
                                                                                   ั
                  Geoffrey Till ให้ค�าอธิบายว่า “...การทูตทางเรือ   ตอบโต้ ส่วนใหญ่เก่ยวกับเร่องท่วไป ไม่ก่อให้เกิดผลร้ายแรง
                                                                                        �
                     ี
              เป็นวลีท่ครอบคลุมกิจกรรมทางทะเลท่มีอันตราย    ไม่ว่ากับฝ่ายใด ส่วนการบังคับนามาซ่งผลร้ายแรง
                                                                                             ึ
                                                ี
                                                                        ี
                                                  ึ
                                          ี
                                                                                        ั
              น้อยกว่าบรรดากระบวนการต่าง ๆ ท่ประเทศหน่ง อาจใช้  เป็นประเด็นท่เฉพาะเจาะจงและย่วยุให้ฝ่ายตรงข้าม
              เพื่อให้เกิดอิทธิพลต่อพฤติกรรมของประเทศอื่น ...แม้ว่า  ปฏิบัติการตอบโต้ ท้งยังมีวัตถุประสงค์ให้คู่ต่อสู้จาต้อง
                                                                                                   �
                                                                             ั
                              �
                                             �
              การทูตทางเรือพลังอานาจ (Power) ถูกนามาใช้มากกว่า  ปฏิบัติตามหรือหยุดการปฏิบัติการบางสิ่งบางอย่าง
                                                                             ึ
                                                                                       ิ
                                                                                              ี
                                                                                    �
              ก�าลังรบทางเรือ (naval force) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ     การปฏิบัติการหน่ง ๆ อาจดาเนนไปโดยมวัตถุประสงค์
                                   ี
              คิดถึงบรรดาโอกาสต่าง ๆ ท่ใช้ประกันการข่มขู่หรือบังคับ  ป้องปรามและบังคับในคราวเดียวกัน
              ทางกายภาพ”                                        ความแตกต่างระหว่างนโยบายต่างประเทศ
                                       ี
                                        ิ
                  การทูตเรือปืนยังคงเป็นวลีท่นยมใช้ในความสัมพันธ ์  กับการทูต พจนานุกรมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
                                 ุ
                                  ั
                                                    ่
                                                    ี
              ระหว่างประเทศแม้ปัจจบน แต่เป็นความหมายทกว้าง   ให้ค�าอธิบายว่า : “การทูตต่างจากความคิดอย่างกว้าง ๆ
                                                                                       ี
              เช่น Merriam Webster Dictionary ให้นิยามว่า     ของนโยบายต่างประเทศ การทูตเก่ยวข้องกับวิธีการและ
                                         ้
                                           ื
                                                                                             ี
                                              ุ
                                ุ
                                                   ่
                            ั
                    ู
                                                                       ั
              “การทตมการสนบสนนโดยการใชหรอคกคามวาจะใช     ้  กลไก (รวมท้งเทคนิคการดาเนินการ) ท่รัฐมุ่งติดตาม
                      ี
                                                                                  �
                                                                                     �
              ก�าลังทหาร” ซึ่งคล้าย ๆ กับ Cambridge Dictionary :   ผลประโยชน์ของตนนอกเขตอานาจศาล เทคนิคการ
              “การใช้ภัยคุกคามทางทหารโดยประเทศท่เข้มแข็งกว่า  ดาเนินการมิได้เว้นกาลังรบติดอาวุธ บ่อยคร้งรัฐท่ก้าวร้าว
                                                              �
                                                                            �
                                               ี
                                                                                             ั
                                                                                                 ี
                                                    นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๑๐๒  เล่มที่ ๓ ประจำ�เดือน มีน�คม  ๒๕๖๒  9
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15