Page 81 - แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ค31201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติม เรื่องเซต
P. 81
77
ผลต่างระหว่างเซต B และเซต A เขียนแทนด้วย B – A หมายถึง เซตที่ประกอบด้วยสมาชิกของเซต B ท ี่
ไม่เป็นสมาชิกของเซต A นั่นคือ
B – A = {x x B และ x A}
2. ครูยกตัวอย่างบนกระดาษต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1 กำหนด A = {2, 3, 4, 5, 6} และ B = {3, 4, 5, 6}
จะได้ A – B = {2} และ B – A =
ตัวอย่างที่ 2 กำหนด A = {2, 4, 6, …} และ B = {1, 3, 5, …}
จะได้ A – B = {2, 4, 6, …} และ B – A = {1, 3, 5, …}
่
ตัวอย่างที่ 3 กำหนด C = {x x เป็นจำนวนเต็มที่มีคาน้อยกว่า 3}
D = {x x เป็นจำนวนเต็มที่มากกว่า –4}
เขียนเซตแบบแจกแจงสมาชิกได้เป็น
C = { 2, 1, 0, –1, –2, –3, …}
D = {–3, –2, –1, 0, 1, 2, …}
จะได้ C – D = {–4, –5, –6, …}
D – C = {3, 4, 5, …}
3. ครูอธิบายเรื่อง ผลต่างของเซต เพิ่มเติมสำหรับนักเรียนที่ยังไม่เข้าใจดังนี้ ผลต่างระหว่างเซต A
และเซต B คือ เซตที่ประกอบด้วยสมาชิกของเซต A แตไม่ได้เป็นสมาชิกของเซต B ผลต่างของเซต A และ
เซต B เราเรียกว่า คอมพลีเมนต์ของเซต B เมื่อ
เทียบกับเซต A เขียนแทน ด้วย “ A – B”
นั่นคือ A – B = {x|x A หรือ x B} เช่น
กำหนดให้ X = {1, 2, 3, 4, 5}, A = {1, 2, 3}, B = {2, 3, 4}
จะได้ A – B = {1} หรือ จะได้ B – A = {4}
เขียนแผนภาพของเวนน์–ออยเลอร์ แสดงผลต่างของเซต ได้ดังนี้
ถ้า A U B = Ø แล้ว
A – B = A

