Page 68 - หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
P. 68
68
เป็นสามยทรัพย์ เช่น การยอมให้เดินผ่าน การยอมให้ปลูกโรงเรือนรุกล้ำ ยอมให้วางท่อประปาผ่าน
เป็นต้น
1.3 คงอยู่ตลอดไป กล่าวคือ กรรมสิทธิ์มีลักษณะคงทนถาวรแม้ไม่ใช้ก็ไม่หมดสิ้นไป
แต่ทรัพยสิทธิอน เช่น ภาระจำยอม ถ้าไม่ใช้เป็นระยะเวลา 10 ปีย่อมทำให้ภาระจำยอมสิ้นสิทธิไป
ื่
หรือถ้าให้สิทธิอาศัยโดยมีกำหนดเวลาห้ามกำหนดเกิน 30 ปี แต่หากเป็นกรรมสิทธิ์ แม้เจ้าของไม่ใช้กี่
ิ
ปีก็ไม่ทำให้สิ้นสิทธิไป เว้นแต่ถูกแย่งกรรมสิทธิ์ด้วยการครอบครองปรปักษ์ หรือถูกเพกถอนกรรมสิทธิ์
โดยรัฐตามกฎหมายเฉพาะตามกฎหมายที่ดินหรือกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. อำนาจแห่งกรรมสิทธิ์
อำนาจแห่งความเป็นเจ้าของที่กฎหมายให้การรับรองและคุ้มครองให้ เรียกว่า อำนาจ
แห่งกรรมสิทธิ์ บัญญัติไว้ในมาตรา 1336 บัญญัติว่า “ภายในบังคับแห่งกฎหมาย เจ้าของทรัพย์สินมี
สิทธิใช้สอยและจำหน่ายทรัพย์สินของตน และได้ซึ่งดอกผลแห่งทรัพย์สินนั้น กับทั้งมีสิทธิติดตามและ
เอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อนสอดเข้า
ื่
เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย”
คำว่าภายในบังคับแห่งกฎหมาย หมายความว่า ถ้ามีประมวลกฎหมายแพงและ
่
พาณิชย์ว่าด้วยทรัพย์สินและกฎหมายอนบัญญัติไว้เป็นอย่างใดก็ให้บังคับตามกฎหมายนั้นไป ซึ่งการ
ื่
ใช้สิทธิของเจ้าของทรัพย์สินนั้นจะต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย ตามมาตรา 1336 บัญญัติถึงสิทธิ
ของผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินไว้ 5 ประการ ดังนี้ (บัญญัติ สุชีวะ. 2540 : 181-185)
2.1 สิทธิใช้สอยทรัพย์สิน กล่าวคือ เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอยทรัพย์สินนั้นอย่างใด
ก็ได้ แต่อยู่ภายใต้ขอบเขตกฎหมาย เช่น เป็นเจ้าของรถยนต์ก็ใช้รถยนต์ขับขี่ หรือเป็นเจ้าของบ้านก็ใช้
อยู่อาศัยได้ แต่จะใช้สอยทรัพย์ให้ขัดต่อมาตรา 1337 ถึงมาตรา 1355 ไม่ได้ เพราะบทบัญญัติเหล่านี้
เป็นข้อจำกัดสิทธิการใช้สอยของเจ้าของทรัพย์ เช่น จะต้องยอมเปิดทางให้ที่ดินตอนในออกสู่ทาง
สาธารณะ หรือต้องยอมรับน้ำที่ไหลตามธรรมชาติจากที่สูงลงที่ต่ำ เป็นต้น
2.2 สิทธิจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สิน กล่าวคือ เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิจำหน่าย
ทรัพย์สินนั้นอย่างใดก็ได้ และหมายความรวมถึงการทำลายทิ้งด้วย เช่น เผ่าไฟ ทิ้งลงน้ำทะเล โยนทิ้ง
ข้างทาง ยกให้ผู้อน เป็นต้น การจำหน่ายทรัพย์สินนี้จะต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย ตามหลัก
ื่
ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน ซึ่งหากเจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิเพียงไรผู้รับโอนทรัพย์สินก็ย่อมมีสิทธิเพียง
นั้น

