Page 234 - สอนสนุก สร้างสุข สไตล์สาธิตปทุมวัน เล่ม 3
P. 234
232 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
ทำผิดข้อตกลง ก็มีการทบทวนด้วยวิธีการใหม่ เพื่อจะได้ไม่เป็นการบ่น
พูดซ้ำซากพร่ำเพรื่อ ชวนให้เกิดความเบื่อหน่าย และมีอารมณ์อยาก
ต่อต้าน เมื่อมีพฤติกรรมที่เป็นปัญหาเกิดขึ้น ศึกษาสาเหตุให้ชัดเจน
แล้วช่วยกันคิดหาแนวทางในการแก้ไขปัญหามีวิถีทางในการแก้ปัญหา
หลากหลายโดยมุ่งไปที่จุดหมายเดียวกันคือ แก้ปัญหานั้นได้เพื่อเป็น
แนวทางในการให้เด็กคิดแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองต่อไป ครูเป็นแบบอย่าง
ให้กับเด็กได้ มีข้อตกลงในการปฎิบัติอย่างไร ครูควรจะเป็นตัวอย่าง
ในเรื่องเหล่านั้นสำหรับเด็กได้ ไม่ใช่ครูแนะนำให้เด็กปฏิบัติอย่างหนึ่ง
แต่ครูเองปฎิบัติอีกอย่าง ตรงข้ามกัน ครูสอนให้เด็กรู้จักพูดจาดี ๆ
กับเพื่อนรู้จักควบคุมอารมณ์ไม่โกรธเพื่อนแล้วส่งเสียง ดัง ทุบตี
ทะเลาะกัน แต่เมื่อเด็กทำผิด ครูเองจับเด็กเขย่า ตะคอก ขู่ด็กเสียงดัง
หรือครูมีปัญหา กันเอง ทะเลาะกัน เสียงดัง ก็คงจะขัดกับที่ครูได้
แนะนำเด็กเอาไว้ เด็กก็คงจะงง เกิดความสับสน ในใจ ว่าจะทำ
อย่างไรทำตามที่ครูแนะนำไว้ หรือทำตามตัวอย่างจริงที่เห็นครู
ปฎิบัติอยู่คือ ครูทำ ในสิ่งที่ไม่อยากให้นักเรียนทำ มีความสม่ำเสมอ
ในการปฎิบัติต่อเด็กทุกคนโดยเท่าเทียมกัน มีความยุติธรรมในการ
วินิจฉัยปัญหาต่าง ๆ ด้วยเหตุผลหลักการ ตามข้อตกลงเป็นจุดสำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานของใคร เอาจริง ทำจริง ก็จะได้ผลจริง
ถ้าครูทำได้ เด็กจะศรัทธาในตัวครู วินัยก็จะเกิดตามมา บางครั้งมี
กรณีทำผิดเกิดขึ้น นักเรียนกลุ่มหนึ่งถูกลงโทษ อีกกลุ่มหนึ่งมีความผิด
กรณีเดียวกัน ครูเพิกเฉย เพราะว่าในกลุ่มนั้นล้วนแต่เป็นลูกผู้มีอิทธิพล
ผู้มีพระคุณของตนเองหรือโรงเรียน ถ้าทำเช่นนี้เมื่อไหร่เด็กทั้ง 2 กลุ่ม
ก็คงจะไม่เคารพศรัทธาในตัวครู กลุ่มแรกก็เกิดความคิดมุ่งร้าย มองเห็น
ความ ไม่ยุติธรรมไม่สม่ำเสมอของครู เพราะครูเลือกปฎิบัติ กลุ่มหลัง
จะได้ใจทำอีก และจะไม่เกิดการเรียนรู้ที่จะทำตนให้มีวินัย เพราะว่า

