Page 667 - ตำราเคมีอินทรีย์ [Jadsada Ratniyom]
P. 667
อัลดีไฮด์และคีโตน 639
แม้ว่าฟอสฟอรัสอิลลิดจะมีประจุบวกและลบอยู่บนฟอสฟอรัสและ
คาร์บอนอะตอมตามลำดับ แต่ประจุทั้งสองนั้น ก็สามารถได้รับความเสถียรได้อันเป็นผลจากเร-
โซแนนซ์ ซึ่งสามารถเขียนโครงสร้างเรโซแนนซ์ได้ ดังแสดงในภาพที่ 11.13 จากโครงสร้างเรโซแนนซ์
ที่สองจะเห็นว่ามี P มีอิเล็กตรอนล้อมรอบเกิน 8 อิเล็กตรอนและมีพันธะ 5 พันธะ เนื่องจาก P อยู่ใน
คาบที่ 3 ของตารางธาตุจึงเริ่มมี d ออบิทัลที่ว่าง ฟอสฟอรัสจึงใช้ d ออบิทัลนี้สร้างพันธะเพิ่มจึง
สามารถมีอิเล็กตรอนล้อมรอบ 10 อิเล็กตรอนได้
มี 10 e รอบ P
(P มี 5 พันธะ)
ภาพที่ 11.13 โครงสร้างเรโซแนนซ์ของฟอสฟอรัสอิลลิด
ในปัจจุบันฟอสฟอรัสอิลลิดสามารถหาซื้อสำเร็จรูปได้จากบริษัทขายสารเคมีทั่วไป
แต่หากต้องการใช้ฟอสฟอรัสอิลลิดที่ฝั่งของหมู่อัลคิลไม่มีจำหน่ายก็สามารถเตรียมขึ้นเองใน
ห้องปฏิบัติการได้ โดยการเตรียมฟอสฟอรัสอิลลิดจะเกี่ยวข้องกับ 2 ขั้นตอน คือ
[1] ปฏิกิริยาแทนที่ด้วยนิวคลีโอไฟล์ระหว่าง PPh3 กับอัลคิลเฮไลด์
PPh3 (triphenylphosphine) จะทำหน้าที่เป็นนิวคลีโอไฟล์ทำปฏิกิริยาแทนที่
กับอัลคิลเฮไลด์ผ่านกลไกแบบ SN2 จะได้ alkyltriphenylphosphonium salt
โดยอัลคิลที่จะเกิดได้ดีตามหลักการของ SN2 คือ CH3-X และ 1˚ อัลคิลเฮไลด์
เนื่องจากความเกะกะน้อย ส่วน 2˚ อัลคิลเฮไลด์สามารถใช้ได้แต่อาจให้ร้อยละผลได้
ต่ำ ปฏิกิริยาดังแสดง
[2] alkyltriphenylphosphonium salt ทำปฏิกิริยากับเบสที่แรง
ขั้นนี้จะเป็นปฏิกิริยากรดเบสระหว่าง phosphonium salt กับเบส ซึ่งเบสที่นิยมใช้
เพื่อดึง H ที่คาร์บอนอะตอมที่ติดกับฟอสฟอรัสอะตอม คือ butyl lithium
(CH3CH2CH2CH2Li ใช้ตัวย่อ BuLi) ซึ่งเป็นเบสที่แรงมาก โดยใช้มาดึงโปรตอนออก
จากคาร์บอนอะตอมแล้วจะได้ฟอสฟอรัสอิลลิด ดังแสดง

