Page 66 - การใช้ภาษาและวัฒนธรรมไทยสำหรับครู
P. 66

๔๙


                                                ื
                                      ๒)  อานเพ่อความบันเทิงไดแก การอานจากหนังสือประเภทสารคดีทองเท่ยว
                                                                                                     ี
                        นวนิยาย  เรื่องสั้น  เรื่องแปล การตูน บทประพันธ  บทเพลง  แมจะเปนการอานเพื่อความบันเทิง
                        แตผูอานจะไดความรูที่สอดแทรกอยูในเรื่องดวย
                                                                      
                                      ๓)  อานเพอทราบขาวสารความคิด  ไดแก  การอานจากหนังสือประเภทบทความ
                                               ื่
                                
                                   
                        บทวิจารณ  ขาว  รายงานการประชุม   ถาจะใหเกิดประโยชนอยางแทจริงตองเลือกอานใหหลากหลาย
                                                                                                  ่
                                  
                                                                                                  ี
                                               ่
                        ไมเจาะจงอานเฉพาะสื่อ ทนำเสนอตรงกับความคิดของตน เพราะจะทำใหไดมุมมองทกวางข้น
                                                                                                        ึ
                                               ี
                        ชวยใหมีเหตุผลอื่นๆ มาประกอบการวิจารณ วิเคราะหไดหลายมุมมองมากขึ้น
                                                                                             
                                               ื
                                           
                                                                                               
                                                                                       
                                                                                 
                                                                      
                                                                                           ี
                                      ๓)  อานเพ่อจุดประสงคเฉพาะทางแตละครั้ง  ไดแก  การอานท่ไมไดเจาะจง  แต  
                        เปนการอานในเรื่องที่ตนสนใจ หรืออยากรู  เชน  การอานประกาศตาง ๆ การอานโฆษณา  แผนพบ
                                                                                                        ั
                        ประชาสัมพันธ  สลากยา  ขาวสังคม  ขาวบันเทิง  ขาวกีฬา   การอานประเภทนี้มักใชเวลาไมนาน
                        สวนใหญเปนการอานเพื่อใหไดความรูและนำไปใช  หรือนำไปเปนหัวขอสนทนา เชื่อมโยงการอาน สู
                        การวิเคราะห  และคิดวิเคราะห  บางครั้งก็อานเพื่อใชเวลาวางใหเกิดประโยชน

                                      
                        ๔. ประเภทการอาน

                               นักการศึกษาหลายๆทานมักจะจำแนกประเภทของการอานออกเปน ๒ ประเภท คือ การ
                        อานออกเสียงและการอานในใจ แตบางทานใหความสำคัญกับการอานในใจเพียงประเภทเดียว
                        โดยรวมการอานออกเสียงเปนสวนหนึ่งของการอานในใจ บางทานก็นำจุดมุงหมายของการอานมา
                                                                                                        ื
                                                                                                        ่
                        เปนเหตุผลในการจำแนกประเภทของการอานจึงเปนการอานเพื่อการศึกษาคนควา การอานเพอ
                                              ื่
                        ความเขาใจและการอานเพอความบันเทิง    เปนตน ดังนั้นการจำแนกประเภทของการอานจึงเปนได
                        หลายแนวซึ่งผูเปนครูควรศึกษาทำความเขาใจในรูปแบบการจำแนกประเภทของการอานเพอ
                                                                                                        ื
                                                                                                        ่
                                                                                                       
                        เปาหมายของการพัฒนาความรูและความเขาใจถึงขอบขายของการสอน  ดังนั้นประเภทของการอาน
                        จำแนกไดเปนหมวดหมู สรุปไดดังนี้
                               ๑.  การแบงประเภทของการอานโดยคำนึงถึงเสียงเปนหลัก จำแนกได ๒ ประเภท ดังนี้
                                      การอานออกเสียง จำแนกได ๓ แบบ ดังนี้

                                             1.  การอานรอยแกว
                                             2.  การอานรอยกรอง
                                                     
                                             3.  การอานทำนองเสนาะ
                                      การอานในใจ จำแนกได ๗ แบบ ดังนี้

                                             ๑.  การอานแบบคนควา เชน การอานตำรา การอานสารานุกรม การ
                                                 อานพจนานุกรม เปนตน
                                             ๒.  การอานแบบจับใจความสำคญหรือหาสาระสำคัญของเรื่อง เชนการ
                                                                        ั
                                                 อานบทความ การอานสารคดี เปนตน

                                             ๓.  การอานแบบหารายละเอียดทกตอน เชน การอานประวัติศาสตร การ
                                                                         ุ
                                                 อานลำดับเหตุการณ  
                                                          ื่
                                             ๔.  การอานเพอหารายละเอียดทกคำเพื่อการปฏิบัติ เชน การอานคูมือ
                                                                         ุ
                                                                                                 
                                                 วิธีการประกอบอาหาร การอานคูมือวิธีการใชเครื่องใชไฟฟา การอาน
                                                                         
                                                                                                 
                                                 คูมือการประกอบตูเสื้อผา  เปนตน
   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71