Page 104 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 104

๘๓


                                                                          ุ
                       เป็นสามเณร ถวายตัวเป็นศิษย์ของท่านพระโรหณเถระ (พระอปัชฌาย์) ที่ถ้ ารักขิตคูหา แถบเทือกเขา
                                           ุ
                       หิมาลัย เพอศึกษาวิชาพทธศาสตร์กับท่าน หลังเรียนจบวิทยาประจ าตระกูลพราหมณ์ของบิดาท่าน
                                ื่
                       และศิลปศาสตร์ทางโลกแล้ว

                                 พระโรหณเถระได้พร่ าสอนสามเณรนาคเสนให้เรียนรู้พระอภิธรรมปิฎก จนมีความรู้ทรง

                       จ าพระอภิธรรมปิฎกทง ๗ คัมภีร์ ได้หมดในระยะเวลาเพยง ๗ เดือนเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี สามเณรนาค
                                         ั้
                                                                     ี
                                                                              ุ
                                    ุ
                       เสนก็ได้รับการอปสมบทเป็นภิกษุ โดยมีพระโรหณเถระเป็นพระอปัชฌาย์ หลังจากที่ท่านบวชเป็น
                       พระภิกษุแล้ว ก็มีเรื่องเล่าว่า เช้าวันหนึ่งพระนาคเสนนึกดูหมิ่นพระอปัชฌาย์ในเรื่องเกี่ยวกับ
                                                                                    ุ
                       การศึกษาว่า พระโรหณเถระพระอปัชฌาย์ของท่านไม่มีความรู้อน เช่น พระวินัยปิฎกและพระ
                                                                               ื่
                                                     ุ
                       สุตตันตปิฎก นอกจากพระอภิธรรมอย่างเดียว จึงพร่ าสอนท่านแต่พระอภิธรรมปิฎก แต่ภายหลัง
                                                           ุ
                       ส านึกผิดว่า ตนไม่ควรนึกดูหมิ่นสงสัยพระอปัชฌาย์ของตนอย่างนี้จึงขอให้พระเถระยกโทษให้ พระ
                       เถระไม่ยอมรับการขอขมาทันที แต่มีข้อแม้ว่าจะยกโทษให้


                                 ถ้าพระนาคเสนสามารถจะตอบปัญหาของพระเจ้ามิลินท์ และท าพระองค์ให้เลื่อมใสได้
                       พระนาคเสนจึงรับค าพระอุปัชฌาย์ ตามล าดับ ดังนั้น พระนาคเสนจึงถูกส่งไปเป็นศิษย์ศึกษาพระพุทธ

                                         ั
                             ิ่
                       พจน์เพมเติมกับพระอสสคุตตเถระ (อาจารย์รูปที่สองของท่าน) ที่วัดวัตตนิยเสนาสนวิหาร พระอสส
                                                                                                       ั
                                                                                   ื่
                       คุตตเถระพร่ าสอนและทดสอบ ท่านโดยให้ท่านสอนพระอภิธรรมแก่คนอน ๆ ต่อมาพระนาคเสนก็ได้
                                                        ี
                                                          ี่
                              ั
                       ถูกพระอสสคุตตเถระส่งตัวไปศึกษาต่ออกทเมืองปาฏลีบุตรกับพระธัมมรักขิตะ (อาจารย์รูปที่สามของ
                                                                                       ิ
                                                  ั
                       ท่าน) ที่วัดอโศการาม ศึกษาร่วมกบพระติสสทัตตเถระ ชาวลังกา พระธัมมรักขตะสอนพระนาคเสนให้
                       มีความรู้บริบูรณ์ในพระไตรปิฎก
                                 พระนาคเสนศึกษาอยู่กับพระธัมมรักขิตะที่วัดอโศการาม เป็นเวลา ๓ เดือน ก็เรียนจบ

                       และทรงจ าพระไตรปิฎก คือ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎกได้หมด รู้
                       ความหมาย ทั้งโดยอรรถ (ใจความ) และโดยพยัญชนะ (ตามตัวอกษร) และอยู่ทบทวนซักซ้อมที่นั่นอีก
                                                                           ั
                       เป็นเวลา ๓ เดือน รวมความว่าพระนาคเสน เรียนพระไตรปิฎกอยู่ที่วัดอโศการาม เมืองปาฏลีบุตร กับ
                       พระธัมมรักขตะเถระเป็นเวลา ๖ เดือน เมื่อเรียนจบภาคปริยัติแล้วก็ได้รับแรงกระตุ้นจากพระอาจารย์
                                 ิ
                                                                    ั
                       ธัมมรักขิตะให้เข้าสู่ภาคปฏิบัติด้วย พระนาคเสนเชื่อฟงและได้พยายามเจริญสมณธรรมทั้งกลางวัน
                       และกลางคืนในภาคปฏิบัติ ไม่ช้าไม่นานนักท่านก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ได้ปฏิสัมภิทา ๔ คือ
                                                                                                      ๒๘
                       แตกฉานในการอธิบายความหมาย ในหัวข้อธรรม ในการใช้ภาษา และในการมีไหวพริบปฏิภาณดี






                                 ๒๘ มหามกุฏราชวิทยาลัย,มิลินท์ปัญหา ฉบับแปลในมหามกุฏราชวิทยาลัย, (กรุงเทพมหานคร: มหาม

                       กุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๔๗), หน้า ๗-๑๒.
   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109