Page 99 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 99

๗๘


                       ภาคเหนือ ราวแรกตั้งคริสต์ศักราช (คริสต์ศักราชเริ่มเมื่อ พ.ศ. ๕๔๓) ในเวลาที่พระพทธศาสนายังไม่
                                                                                             ุ
                       เกิดแตกแยกกนเป็นนิกายมหายาน ข้างฝ่ายเหนือ และนิกายเถรวาท ข้างฝ่ายใต้ และว่ามิลินทปัญหา
                                  ั
                       นี้ เดิมคงแต่งขึ้นในภาษาสันสกฤตหรือภาษาปรากฤตเช่นเดียวกับคัมภีร์อื่น ๆ ที่รจนาขึ้นในทางอินเดีย
                       ภาคเหนือ แต่ฉบับเดิมสาบสูญไปเสียแล้ว ฉบับที่ปรากฏสืบมาจนบัดนี้นั้น เป็นฉบับที่ชาวลังกาได้แปล

                                    ๑๘
                       เป็นภาษาบาลีไว้
                                 ๓.พระอานันท์ เกาศัลยายนเถระ (Anand Kausalyayana)ชาวอนเดีย กล่าวเมื่องาน
                                                                                         ิ
                       ฉลองพระพุทธศาสนามีอายุ ๒๕๐๐ ปีว่า มิลินทปัญหานั้น รวบรวมขึ้นโดยพระนาคเสนมหาเถระ และ

                       เป็นคัมภีร์ที่มีหลักฐานดีเล่มหนึ่ง มิลินทปัญหาคงรจนาขึ้นในสมัยพระเจ้าเมนันเดอร์ (มิลินท์) หรือ
                       หลังจากนั้น แต่จะต้องรจนาขึ้นก่อนสมัยพระพทธโฆษาจารย์ เพราะพระพทธโฆษาจารย์มักจะอ้างถึง
                                                             ุ
                                                                                    ุ
                       มิลินทปัญหาเสมอ เมื่อประมาณดูแล้ว มิลินท-ปัญหาคงจะรจนาขึ้น ๑๕๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช ถึง
                       คริสต์ศักราช ๔๐๐ ปี เมื่อถือว่ามิลินท-ปัญหามีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ สิ่งที่ควรพจารณาต่อไปก็
                                                                                              ิ
                                                                                                 ิ่
                                                                                                     ิ่
                       คือใครเป็นผู้รวบรวมขึ้น รวบรวมขึ้นเมื่อไร มีการเพมเติมลงไปบ้างหรือไม่ และถ้ามีการเพม เพมเติม
                                                                 ิ่
                       ไปเมื่อไร มีผู้เสนอความคิดว่ามิลินทปัญหาไม่ใช่เป็นคัมภีร์ที่รจนาขึ้นโดยบุคคลคนเดียว เพราะแต่ละ
                                                               ิ่
                       ตอนมีลีลาการแต่งแตกต่างกัน บางทีจะมีการเพมเข้าไปในภายหลังเป็นบางตอนก็ได้ ข้อพสูจน์ค าที่
                                                                                                  ิ
                                                                                      ุ
                       กล่าวนี้มีอยู่ว่า ฉบับที่แปลเป็นภาษาจีนระหว่างคริสต์ศักราช ๓๑๗-๔๒๐ (พทธศักราช ๘๖๐-๙๖๓)
                                                 ี
                                                                   ิ
                       ซึ่งเรียกว่านาคเสนสูตรนั้น มีเพยง ๓ ตอนแรก เมื่อพจารณาตามหลักนี้ จะเห็นได้ว่า ๔ ตอนที่เหลือ
                                                    ี
                         ิ่
                       เพมเข้ามาในภายหลัง ข้อเท็จจริงอกประการหนึ่งที่สนับสนุนค ากล่าวข้าวต้น คือ เมื่อจบตอนที่ ๓
                       แล้ว ก็แสดงว่าพระเจ้ามิลินท์ทรงถามปัญหาจบลง แต่ถึงตอนที่ ๔ กลับเหมือนทรงเริ่มต้นถามใหม่อก
                                                                                                        ี
                       จึงมีทางสันนิษฐานได้เป็น ๓ ทาง คือ

                                 ๑) อาจจะมีการเพิ่มเติมเข้ามาภายหลังอีกหลายตอน
                                 ๒)อาจจะแต่งขึ้นครบบริบูรณ์อย่างที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้มาเดิมแล้ว

                                 ๓)ชาวจีนอาจจะเลือกแปลไว้เพียง ๓ ตอนแรกก็ได้
                                                                          ๑๙
                                 ๔. เอ. แอล. บาชัม (A.L. Basham)เห็นว่า มิลินทปัญหาน่าจะรจนาขึ้นใน

                                                                                                 ุ
                       คริสต์ศตวรรษที่ ๑ หรือมิฉะนั้นก็ราวแรกตั้งคริสต์ศักราช แต่อย่างน้อยก็ต้องก่อนพระพทธ-โฆษา
                       จารย์ไปลังกา แม้จะไม่ทั้งหมดก็ต้องบางส่วน หรือไม่ก็ภายหลังที่พระไตรปิฎกได้จัดเป็นชาดก เป็นทีฆ







                                 ๑๘  Prof. Nalinaksha Dutt,  Milindapanha and  Nagasenbhikshussutra, by Dr. thich
                       Minh Chau Bhikkhu, (Calcutta, 1964).
                                 ๑๙ อ้างแล้ว.
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104