Page 51 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 51

๓๗


                       (Reality) คือความจริงแท้เรื่องโลก คน และภาวะเหนือธรรมชาติ ต่างกับญาณวิทยา
                       (Epistemology) ซึ่งว่าด้วยความรู้ และจริยศาสต์ (Ethics) ว่าด้วยความประพฤติของมนุษย์ และถือ

                                       ื้
                       ว่าอภิปรัชญาเป็นพนฐานหรือเป็นเนื้อหาที่แท้จริงของปรัชญา เพราะการจะรู้ว่าอะไรถูกหรือไม่ถูก
                       หรือว่าจะตัดสินว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรงาม อะไรไม่งามนั้น จะต้องรู้เสียก่อนว่าอะไรจริง อะไรไม่

                       จริง ซึ่งเป็นปัญหาทางอภิปรัชญาดังนั้น อภิปรัชญาจึงท าตัวเหมือนกับรถแทร็กเตอร์ที่คอยบุกเบิกหัก

                                 ื่
                       ร้างถางพงเพอท าถนนหนทาง เมื่อท าหน้าที่เสร็จแล้วก็เป็นหน้าที่ของรถประเภทอื่น ๆ เข้าท าต่อ เช่น
                       รถบด รถขนหิน ขนทราย และรถราดยาง เพอจัดท าตบแต่งให้เป็นถนนหนทางที่ได้มาตรฐานจนแล้ว
                                                            ื่
                                                   ื่
                                                                                           ื่
                       เสร็จ และหลังจากนั้นรถประเภทอน ๆ เช่น รถเก๋ง รถเมล์ และรถส่วนบุคคลชนิดอน ๆ ก็สามารถวิ่ง
                       ได้สบาย ๆ ส่วนรถเทร็กเตอร์ก็ไปท าหน้าที่บุกเบิกป่าดงที่รกชัฏต่อไป ซึ่งการท าหน้าที่ของอภิปรัชญา
                       ก็เป็นเช่นเดียวกับรถแทร็กเตอร์ที่คอยบุกเบิกเปิดเผยความจริงที่ซ่อนเร้นหลังปรากฏการณ์ทั้งหมด
                                                                                                      ๒๒
                                 อภิปรัชญาในฐานะที่เป็นปรัชญาบริสุทธิ์สาขาหนึ่งของปรัชญาได้ท าหน้าที่เป็นต้นก าเนิด

                       หรือศูนย์รวมของสรรพวิทยาการทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ ศาสนา
                                                                       ิ
                                                                    ื่
                       จริยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และศาสตร์อน ๆ ในโลกนี้ ต่อมาศาสตร์ต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ
                       แยกตัวออกจากปรัชญาทีละศาสตร์ และศาสตร์แรกที่แยกตัวออกจากปรัชญา คือศาสนา โดยในช่วง

                       แรก ๆ ศาสนาก็ท าหน้าที่คล้ายปรัชญา คือพยายามตอบปัญหาที่เกิดขึ้นในจิตส านึกของมนุษย์ ต่อมา

                       ศาสนาเริ่มมีหลักค าสอนและหลักปฏิบัติที่ค่อนแน่นอน รวมทั้งมีพธีกรรมเป็นแบบแผนเฉพาะตน จึง
                                                                             ิ
                                                         ิ
                       ได้แยกออกจากปรัชญากลายเป็นศาสตร์อสระเกิดขึ้นครั้งแรก และเมื่อศาสนาแยกออกไปเป็นศาสตร์
                       อิสระแล้ว นักปรัชญาก็พยายามคิดหาสิ่งที่นอกเหนือไปจากความเชื่อทางศาสนา
                                                                                        ๒๓
                                 ๒) ขอบเขตของอภิปรัชญา


                                 อภิปรัชญาได้ท าหน้าที่ในการตอบปัญหาเกี่ยวกับความเป็นจริงของสรรพสิ่ง รวมทั้ง
                       กระบวนการของความเป็นไปของสรรพสิ่งด้วย นั่นหมายถึงการศึกษาเกี่ยวกับเอกภพ (Cosmogony)

                       จักรวาล (Universe) โลก (World) มนุษย์ (Man) จิต (Mind) หรือวิญญาณ (Soul) ชีวิต (Life) สสาร
                       (Matter) ธรรมชาติ (Nature) พระเจ้า (God) หรือสิ่งสัมบูรณ์ (Absolute) ตลอดถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ

                       สิ่งเหล่านี้ เพราะอภิปรัชญามุ่งให้ศึกษาค้นคว้าถึงสัจธรรมหรือความเป็นจริงของเอกภพ หรือความ

                       เป็นจริงของสรรพสิ่งเท่าที่มีอยู่ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอยู่ในลักษณะใดก็ตาม ทั้งที่เป็นรูปธรรม ทั้งที่เป็น
                       นามธรรม ทั้งที่สัมผัสได้ ทั้งที่สัมผัสไม่ได้ อภิปรัชญาจึงท าหน้าที่เหมือนกับรถแทร็กเตอร์ที่คอยบุกเบิก







                                 ๒๒ อ้างแล้ว.
                                 ๒๓ อ้างแล้ว.
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56