Page 53 - หนังสือกฐินวัดโนนกุ่ม
P. 53

53

                                                ี
          เศรษฐกิจว่าเป็นจุดบรรจบในด้านการปฏิบัติท่ถูกต้องในทางเศรษฐกิจเป็นสัมมา
          อาชีวะ โดยถือว่าเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งของระบบการดำาเนินชีวิตหรือ
          วิถีชีวิตแบบพุทธที่เรียกว่ามรรคมีองค์แปดและเสนอทัศนะว่ามรรคมีองค์แปด
          เป็นทางที่นำาไปสู่จุดหมายรวมของพุทธศาสนาทั้งหมด  นอกจากนั้นยังได้เสนอให้

          เห็นลักษณะสำาคัญของเศรษฐกิจตามแนวพุทธศาสตร์ ซึ่งสอดคล้องกับ
          หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยสรุปว่า

                 ๑. เศรษฐกิจหรือเศรษฐศาสตร์สายกลาง คือเศรษฐกิจหรือเศรษฐศาสตร์
          แบบพอเพียงหรือมัชฌิมาปฏิปทาซึ่งก็คือมรรคมีองค์แปดที่มุ่งเน้นความพอดี
           ุ
             ี
                         ี
          ม่งท่ความสมดุลท่หมายถึงการบริโภคเพ่อให้เกิดความพอดีหรือมัชฌิมาปฏิปทา
                                            ื
          หรือการบริโภคแล้วทำาให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี
                 ๒. เศรษฐกิจหรือเศรษฐศาสตร์แนวพุทธศาสตร์ มีแนวคิดสำาคัญคือการ
          ถือว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่ใช่เป็นกิจกรรมที่จบสิ้นในตัว  แต่เป็นกิจกรรมที่เป็น
          ฐานของการที่จะได้พัฒนาศักยภาพอันยิ่งขึ้นไป  และถือว่าผลได้ทางเศรษฐกิจไม่
          จบสิ้นที่การได้เสพ ได้บำาบัดความต้องการ แต่ผลทางเศรษฐกิจจะกลายเป็น

          ความพร้อม เป็นฐานพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือเป็นกิจกรรมในการพัฒนาศักยภาพ
          ของมนุษย์อีกส่วนหนึ่งด้วย

                                  ี
                 จากแนวความคิดเก่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะพบว่าการ
          ดำาเนินชีวิต  ก็จำาเป็นต้องอาศัยหลักเศรษฐศาสตร์ซึ่งเรียกว่าเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
          มุ่งให้ใช้เป็นเครื่องมือหรือเป็นแนวทางที่จะนำาไปสู่ความดับทุกข์ ดับปัญหา
          คือการมีกิน มีใช้ หรือพออยู่ พอกิน จะต้องอาศัยหลักทางสายกลางที่เน้นไป
          ในทางที่ดี เน้นไปในทางที่ประเสริฐที่เรียกว่าสัมมาอาชีวะ อันเป็นการดำาเนินชีวิตที่
          เน้นการพึงพาตนเองก่อน เน้นการได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองด้วยการทำามาหาเลี้ยง
          ชีพที่ชอบด้วยหลักกฎหมาย โดยมีหลักเหตุผลว่าอะไรเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดผลดี เช่น

          ทำาไร่ ไถนา ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เป็นต้น ย่อมจะได้รับผลดี หรืออะไรที่เป็นเหตุ
          ก่อให้เกิดผลที่ไม่ดี เช่น ขาดความความรู้อย่างพอเพียงในการทำามาหากิน
          หรือบเบียดเบียนผู้อื่น  เป็นต้น  ย่อมได้รับผลที่ไม่ดี  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าขาดความรู้
                                           ำ
                                                               ื
                                                                     ี
                                          ู
                 ื
          อันเป็นเง่อนไขท่สาคัญและขาดภาวะผ้นาทางจริยธรรมอันเป็นเง่อนไขท่สาคัญไม ่
                       ี
                                                                      ำ
                        ำ
          ยิ่งหย่อน
                                       มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58