Page 23 - หนังสือการเลี้ยงโคเนื้อ
P. 23
การเลียงโคเนือ 18
้ ้
โคอังกฤษ (Bos Taurus) โคอินเดีย (Bos indicus)
โคยุโรป (Bos Taurus) โคซำนต้ำ
(ลูกผสมโคยุโรปกับโคอินเดีย)
โคโฮลสไตน ฟรีเชียน โคบรำห์ฟอร์ด
์
่
(ลูกผสมโคยุโรปกับโคอินเดีย)
สมัยก่อนเชือกันว่ำโคเนือควรมีรูปร่ำงแนนตันแบบกล่องสีเหลียม ต่อมำพบว่ำโคเนือทีดีควรเปน
้
้
่
่
็
่
่
่
โคทีให้เนือส่วนทีมีรำคำสูงมำก ควำมเชื่อเกียวกับลักษณะรูปร่ำงของโคเนือทีดีจึงเปลียนแปลงไป
่
่
้
่
่
้
่
โคตัวที่อยูด้านหลงเปนโคเน้ออาย 4
ั
่
ุ
็
ื
ป 8 เดือน น้าหนก 1,340 กก. ที่ได้รบ
ี
ั
ั
รางวัลในอังกฤษในป พ.ศ. 2378 มี
ี
ลักษ ณ ะรู ป รางของโค เน้ อ แบ บ
่
ื
็
สมัยก่อน แต่ปจจุบันโคเน้อที่โตเรว ให ้
ั
ื
่
ื
เน้อมาก ควรมีรูปรางแบบโคตัวที่อยู ่
้
ด้านหนา
่
การคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์สามารถเปลียนรูปร่างโคให้มีลักษณะทีเราต้องการได้ เช่น โคงาน
่
้
(draft type)จะมีล าตัวส่วนหนาใหญ่เพื่อให้มีก าลังลากจูงมาก โคเนือ(beef type)จะมีล าตัวยาวและสะโพก
้
้
้
้
ใหญ่เพือให้มีเนือสันและเนือสะโพกมาก เนือดังกล่าวเปนส่วนทีมีราคาสูง โคนม(dairy type)จะมีด้านหนา
็
่
่
้
ส่วนล าคอเรียวบาง แล้วขยายออกเปนรูปสามเหลี่ยมไปทางด้านท้าย เพือจะได้มีเต้านมใหญ่ ผลิตนม
็
่
่
่
้
ได้มาก ส่วนโคกึงเนือนม(dual purpose)ก็จะมีรูปร่างอยูระหว่างโคเนือกับโคนม อย่างไรก็ตามการทีจะ
้
่
้
แยกระหว่างโคเนือ โคนม หรือโคงานอย่างชัดเจนนั้นท าได้ยาก เพราะบางครั้งลูกโคนมก็สามารถนามา
้
็
้
้
้
เลียงเปนโคเนือได้ หรืออาจใช้แม่โคนมมาผสมกับโคเนือเพือให้ลูกไปใช้เลียงขุนก็ได้
่
กลุ่มวิจัยและพัฒนาโคเนือ กองบ ารุงพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์
้

