Page 61 - หนังสือการเลี้ยงโคเนื้อ
P. 61
การเลียงโคเนือ 56
้ ้
้
7) ความสามารถในการให้ผลผลิตนานม ประมาณ 3.3 กิโลกรัมต่อวัน ความยาวระยะรีดนม
(lactation period)ประมาณ 116 วัน อย่างไรก็ตามความสามารถในการให้นานมจะแปรปรวนในแต่ละตัว
้
้
่
8) นาหนักร่างกายและประสิทธิภาพการเปลียนอาหาร
่
้
่
(feed efficiency)ต า แต่ให้เนือคุณภาพสูงทีมีไขมันแทรกใน
กล้ามเนือ(marbling)มาก
้
่
เนือโคญี่ปุนมีรสชาดดี เนืองจากมีความนมเพราะมีไขมัน
้
่
ุ่
แทรกมาก มีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัว(saturated fatty acid)
่
ต่อสัดส่วนของกรดไขมันไมอิ่มตัวเชิงเดียว(monounsaturated
่
่
่
่
fatty acid)ต า เมือบริโภคจึงมีไขมันติดลินนอย โคพันธุ์แท้เพศผู้ขุนจะมีไขมันทีไมสามารถนาไปใช้
่
้
้
่
ประโยชนนอย เมือเปรียบเทียบกับซากโคพันธุ์อืนที่มีนาหนักเท่ากัน ดังนั้นผลผลิตที่ได้จะสูงกว่าพันธุ์
์
้
่
้
อืนๆ โคเพศผู้และเพศเมียที่จะนาไปขุนระยะสุดท้ายนาหนักประมาณ 300 กิโลกรัมราคาตัวละ 119,000
้
่
้
บาท ราคาโคเพศผู้ขุนคุณภาพดี นาหนัก 700 ถึง 740 กิโลกรัม จะมีราคาประมาณ 340,000 บาท ดังนั้น
่
้
่
่
เนือโคพันธุ์ญีปุนขุนได้ชือว่าเปนเนือทีมีราคาแพงทีสุดในโลก ทั้งในภัตตาคารญี่ปุนและร้านจ าหนายเนือ
่
่
่
้
้
่
็
่
่
ในประเทศญีปุน
โคเนือสายพันธุ์ญีปุน ถูกพัฒนาขึนมาในช่วงป พ.ศ. 2373 ถึง 2388 โดยการสร้างสายพันธุ์เลือด
้
้
ี
่
่
ชิด (Inbred strains) ตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศญีปุน แสดงไว้ตามตารางที 16
่
่
่
่
ี่
่
ตารางท 16 สายพันธุ์เลือดชิด (Inbred strains) ของโคเนือญีปุนตามภูมิภาคต่างๆ
้
ี
ื่
ชอสายพันธุ์ เขตภูมิภาค ปทสร้าง เขตพื้นท ี่ ลักษณะเด่น
ี่
Takenotan - zuru Atetsu, Okayama 2377 Atetsu, Okayama มีขนาดล าตัวใหญ่ ระบบเต้า
Hino, Tottori, นมดี ให้ลูกสม าเสมอ อายุการ
่
Nita, Shimane ใช้งานยาว มีเขา ช่วงหลัง
Nogi, Shimane แข็งแรง สันหลังและรูปร่าง
ุ่
นมนวล ล าตัวช่วงหลังเต็ม
Bakura – zuru Nita, Shimane 2398 Nita, Shimane ลักษณะคล้ายกับ Takenotan
– zuru แต่เปนสายพันธุ์ย่อย
็
(subrbeed group) ของสาย
พันธุ์ดังกล่าวข้างต้น
่
Iwakura – zuru Hiba, Hiroshima 2388 Hiba, Hiroshima รูปร่างลักษณะนมนวล นารัก
ุ่
อายุการใช้งานยืนยาว ให้ลก
ู
สม าเสม อ ลัก ษ ณ ะของ
่
ร่างกายดีมาก ระบบเต้านมดี
Shusuke – zuru Mikata, Hyogo 2388 Eastern part of อายุการใช้งานยืนยาว ให้ลูก
Mikata, Hyogo สม าเสมอ คุณภาพเนือดี
่
้
้
กลุ่มวิจัยและพัฒนาโคเนือ กองบ ารุงพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์

