Page 31 - ปกงานวิจัย
P. 31

ี
                                                                                                    ึ
                                     1.1 เจตคติทางบวก (Positive) เป็นความโน้มเอยงของอารมณ์ซึ่งมีความพงพอใจ
                              คล้อยตาม ชอบ หรือ เห็นด้วย ซึ่งจะท าให้บุคคลนั้น แสดงพฤติกรรมออกมาในลักษณะที่ดี
                              ต่อสิ่งนั้นๆ

                                     1.2 เจตคติทางลบ (Negative) เป็นความโน้มเอยงของอารมณ์ซึ่งมีความไม่พอใจ
                                                                              ี
                              ต่อต้าน เกลียด ไม่คล้อยตาม ซึ่งจะท าให้บุคคลเกิดความเบื่อหน่ายและแสดงพฤติกรรม

                              ออกมาในลักษณะที่ไม่ดีต่อสิ่งนั้น ๆ
                              2. ระดับของเจตคติ (Magnitude) หมายถึง การที่บุคคลแสดงความรู้สึกต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งใน

                       ลักษณะผิวเผินหรือลึกซึ้ง ซึ่งเจตคติระดับผิวเผินนั้นจะเปลี่ยนแปลงได้ง่าย แต่ถ้าเป็นเจตคติระดับ

                       ลึกซึ้งจะติดตรึงอยู่ในจิตใจและเปลี่ยนแปลงยาก

                              3. ความเข้มของเจตคติ (Intensive) หมายถึง ปริมาณของความรู้สึกที่มีต่อ สิ่งใดสิ่งหนึ่งว่า

                       มากหรือน้อยเพียงใด

                              ส่วน บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์ (2532 : 23) ได้กล่าวถึงการวัดเจตคติ ซึ่งสรุปได้ดังนี้
                                                                                   ั
                                     1. เนื้อหา (Content) เนื้อหาหรือสิ่งเร้าเป็นสิ่งจ าเป็นอนดับแรกส าหรับการวัดเจต
                              คติสิ่ง

                              เร้าจะเป็นตัวกระตุ้นให้บุคคลแสดงกิริยาท่าทีออกมา ซึ่งสิ่งเร้านี้จะต้องมีการก าหนดให้

                              แน่นอนและเป็นตัวแทนของเจตคติที่ต้องการวัดด้วย

                                     2. ทิศทาง (Direction) การวัดเจตคติโดยทั่วไปจะก าหนดทิศทางเป็นเส้นตรงที่

                              ต่อเนื่องกันในลักษณะเป็นซ้าย - ขวา หรือ บวกกับลบ
                                     3. ความเข้ม  (Intensive) คือ กิริยาท่าทีหรือความรู้สึกที่แสดงออกต่อสิ่งเร้านั้นใน

                              ปริมาณมากหรือน้อย แตกต่างกันจากการที่ได้ศึกษาองค์ประกอบที่ส าคัญของเจตกติไปแล้ว

                              ท าให้มีผู้คิดสร้างเครื่องมือวัดเจตคติ ซึ่งโดยทั่วไปประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็น

                              ข้อความ ซึ่งเรียกว่า ข้อความวัดเจตคติ(Statement Attitude) และส่วนที่เป็นค าตอบ ซึ่งมี

                              ลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า ซึ่งรวม
                              เรียกว่า มาตรวัดเจตคติ (Attitude Scale) มาตรวัดเจตคติที่นิยมและรู้จักกันอย่างแพร่หลาย

                              มี 4 ชนิดได้แก่ มาตราวัดเจตคติแบบของเธอร์ส โตน  มาตราวัดเจตคติแบบของลิเคอร์ท

                              มาตราวัดเจตคติแบบของกัตต์แมน และมาตราวัด เจตคติแบบของออสกูดมาตราวัดทั้ง 4

                              ชนิด นี้มีคุณภาพในลักษณะแตกต่างกัน นอกจากนั้นยังมีข้อจ ากัดและการน าไปใช้แตกต่าง

                              กัน
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36