Page 33 - ปกงานวิจัย
P. 33

ความสอดคล้อง (IOC) ถ้าค่าดัชนีความสอดคล้องตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป ถือว่าข้อค าถามอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้
                       ถ้าต่ ากว่านั้นจะน ามาปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญ 5) คัดเลือกข้อค าถามใน

                       แบบทดสอบ ที่มีค่า IOC

                              สรุปผลการวิจัย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เรื่อง อาหารและสารอาหาร ของ

                       นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบการสืบเสาะหาความรู้(5E) และการ

                       จัดการเรียนรู้แบบปกติมีผลฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ0.05 โดย
                       การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้(5E) มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าการจัดการเรียนรู้แบบปกติ

                       ตั้งแต่ 0.50ขึ้นไปมาสร้างเป็นแบบสอบถาม ฉบับจริงในด้านต่าง ๆ จากนั้นน าข้อค าถามทั้งหมดใน

                       แบบสอบถามไปหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบสอบถามทั้งฉบับ 6) น าแบบสอบถามที่ผ่าน

                                                                                           ื่
                       ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ไปทดลองกับกลุ่มทดลองที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างจ านวน 30 คน เพอหาคุณภาพของ
                       เครื่องมือ 7) น าแบบสอบถามที่ปรับปรุงแล้วมาหาค่าความยากง่าย (p) และค่าอานาจจ าแนก(r) โดย


                       ใช้เทคนิค Reliability พจารณาความยากง่าย (p) ค่าอานาจจ าแนก (r) และความเชื่อมั่นของ
                                            ิ
                       แบบทดสอบโดยค านวณจากสูตร KR-20 ของคูเดอร์ริชาร์ดสัน 8) น าแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์ไปใช้
                       กับกลุ่มตัวอย่างและด าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลในการท าวิจัยต่อไป

                              2.  งานวิจัยต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง

                              Rickards and Den Brok (2003 : 20) ได้รายงานผลการวิจัยในชั้นเรียนกับกลุ่มตัวอย่าง

                       ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษา จ านวน 1,188 คน จาก 50 ชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา

                                                                                                        ื่
                       โดยใช้เครื่องมือ    The QTI and The Test of Science Related Attitudes(TOSRA) เพอ
                       เปรียบเทียบสหสัมพันธ์ระหว่างความคิดเห็นสภาพแวดล้อมและทัศนคติของผู้เรียนที่มีต่อวิทยาศาสตร์

                       ผลการวิจัยพบว่าความสัมพนธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมในขั้นเรียนและทัศนคติมีความสัมพันธ์กันอย่าง
                                             ั
                       มีนัยส าคัญทางสถิติ

                               Wong and Fraser (2008 : 28) ได้ท าการศึกษาวิจัยเรื่อง Assessment of Chemistry

                       Laboratory Classroom Environments กับกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่เตรียมตัว
                       จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ จ านวน 1,592 คน จาก 56 ชั้นเรียน จาก 28 โรงเรียน

                       รัฐบาล โดยใช้เครื่องมือวิจัย The Chemistry LaboratoryEnvironment Inventory (CLEI) ซึ่ง

                       ประยุกต์เครื่องมือจาก The Science LaboratoryEnvironment Inventory (SLEI) ผลการศึกษา

                       พบว่า ค่าความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือในทางสถิติของเครื่องมือวิจัยมีค่าอยู่ในระดับสูง

                               Soerjaningsih, Nusantara, Fraser and Aldridge (2004) ได้รายงานผลการวิจัยในชั้น

                       เรียนกับกลุ่มตัวอย่างนักศึกษาคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยเอกชน จ านวน 422 คน จาก 12 สถาบัน
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38