Page 57 - ปกงานวิจัย
P. 57
2. เจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผ่านการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ
ผสมผสานร่วมกับแนวทางสะแต็มศกษาด้านการเห็นความส าคัญของวิชาวิทยาศาสตร์ ด้านความ
ึ
สนใจในวิชาวิทยาศาสตร์ ด้านการแสดงออกหรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมวิทยาศาสตร์ และการนิยม
ชมชอบต่อวิชาวิทยาศาสตร์ อยู่ในระดับที่เห็นด้วย
อภิปรายผล
จากวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ด้วย
รูปแบบผสมผสานร่วมกับแนวทางสะเต็มศึกษา พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ (x̅ = 14.22, S.D. = 3.53)
สูงขึ้น อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ก าหนดไว้ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก
้
ั้
วิธีการสอนแบบผสมผสานร่วมกับแนวทางสะเต็มศึกษาที่มีขนตอนการแกไขปัญหามาใช้ในการท ากิจกรรม
จากการวิจัยได้ให้ข้อคิดว่า การจัดระบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้นักเรียนน าสถานการณ์ที่เกดขึ้นจริง
ิ
มาร่วมกันแก้ไขปัญหา แสดงให้เห็นว่ารูปแบบการจัด การเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended
Learning) ร่วมกบแนวทางสะเต็มศึกษา ส่งผลต่อพัฒนาการทางการเรียนรู้ ตลอดจนท าให้นักเรียนมีส่วน
ั
ร่วมในการด าเนินกิจกรรมการเรียนการสอน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมา
จากปัจจัยที่เกื้อหนุนในการจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตามแผนด าเนินงานได้อย่างครบถ้วน กล่าวคือ
สถาบันการศึกษาที่ใช้ในการท าวิจัยมีความพร้อมในด้านของสื่อและเทคโนโลยีท าให้การด าเนินการ
กิจกรรมการเรียนการสอนมีผลลัพธ์ไปในทิศทางที่ดี และช่วยท าให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ตลอดจน
ครูผู้สอนด าเนินการจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้ แบบผสมผสานผ่านเทคโนโลยีเว็บ 2.0
(Blended Learning) ในการด าเนินการวิจัยปฏิบัติในชั้นเรียนครั้งนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ประสบความส าเร็จเป็น
ึ้
ั
อย่างมาก กล่าวคือ นักเรียนมีพฤติกรรมการมีส่วนร่วม และมีพฒนาการทางผลสัมฤทธิ์ที่ดีขน
สอดคล้องกับกรศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยความส าเร็จของการเรียนแบบผสมผสาน
(Success Factors for Blended Learning) ของ Sharpe, Benfield, Roberts and Francis (2006)
ได้กล่าวถึงการเรียนรู้แบบผสมผสานจะประสบความส าเร็จและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ย่อมเกิดจาก
ปัจจัยส าคัญบางประการที่จะก่อให้เกิดความส าเร็จได้ไว้ว่า ความส าเร็จจากการเรียนแบบผสมผสาน
จะต้องปฏิบัติบนปัจจัยพนฐานส าคัญดังนี้ (1) การใช้กระบวนการเรียนรู้แบบผสมผสานที่ถูกต้องตาม
ื้
หลักการทฤษฎีที่ก าหนด ผู้ปฏิบัติต้องมีทักษะและความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจนต่อการออกแบบการสอนใน
ี
เชิงปฏิสัมพนธ์ (2) พจารณาในบริบทของงานหรือองค์กรให้ละเอยด ความส าเร็จของการเรียนแบบ
ั
ิ

