Page 17 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 17

15

      สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย การทหารยังคงดำเนินตามแบบอย่างเดิม ในรัชสมัย
ของพระองค์มีการสงครามไม่มากนัก เมื่อปี พ.ศ. 2363 มีข่าวว่าพม่าจะยกทัพมารุกราน ทางด้านเมือง
กาญจนบุรี จึงได้โปรดเกลา้ ฯ ให้ยกกำลังไปสกัดขา้ ศึกสามแหง่ ดว้ ยกนั คอื ท่ีเมอื งกาญจนบรุ ี เพอื่ ยบั ย้งั ขา้ ศึกที่
จะยกเขา้ มาทางด่านเจดยี ์สามองค์ ท่ีเมืองเพชรบรุ ี เพ่อื ยบั ย้ังขา้ ศึกที่จะเข้ามาทางด่านสิงขร และทเ่ี มืองราชบุรี
เพื่อรักษาเมืองราชบุรีไว้ เนื่องจากการศึกสงครามลดน้อยลงไปมาก จึงได้มีการลดหย่อนการเข้ารับราชการ
ทหารลง โดยลดลงเหลือปลี ะ 3 เดือน จากเดิม 4 เดือน การปรบั ปรุงด้านการทหารท่ีสำคญั พอประมวลได้ ดงั น้ี

      การสร้างป้อมปราการ เพื่อป้องกันข้าศึกที่ยกกำลงั มาทางเรือ ให้สร้างป้อมเพิ่มเติม ณ เมืองที่ตั้งอยู่
บนปากแม่น้ำที่สำคัญทั้งสิ้น คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางประกง คือ
ปากแม่นำ้ เจ้าพระยา ทเี่ มืองสมุทรปราการ ไดแ้ ก่ ป้อมปีกกา และป้อมตรเี พชร ทต่ี ำบลบางจะเกรง็ ซ่ึงอยู่ทาง
ฝัง่ ตะวนั ออกของแม่นำ้ เจา้ พระยา เมอื่ ปี พ.ศ. 2371

      การสร้างป้อมปราการที่เมืองหน้าด่าน สร้างป้อมปราการที่ตำบลปากแพรก เมืองกาญจนบุรี เพื่อ
ป้องกันด้านตะวันตก คือพม่า เมื่อปี พ.ศ. 2377 สร้างป้อมไพรีพินาศ และป้อมพิฆาตศัตรู ที่กาญจนบุรี เพ่ือ
ป้องกันด้านตะวันออก คือ ญวณ เมื่อ พ.ศ. 2377 สร้างป้อมปราการที่ตำบลบ่อยาง เมืองสงขลา เพื่อป้องกัน
ดา้ นภาคใต้ เม่ือปี พ.ศ. 2379

      การสร้างเรือรบ เพื่อป้องกันข้าศึกที่เข้ามารุกรานทางทะเล เดิมไทยเรามีแต่เรือขนาดเล็ก บรรทุก
ทหารไม่ได้มาก จงึ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้เจา้ พระยานครศรธี รรมราช ดำเนินการต่อเรอื ต้นแบบ เพื่อให้ใช้ได้ท้ังใน
แม่น้ำและในทะเล ได้มีการต่อเรือดังกล่าวเป็นจำนวน 30 ลำ ราคาลำละ 30 ชั่ง และได้พระราชทานชื่อเรือ
เหล่านนั้ เช่น เรอื ไชยเฉลิมกรงุ เรือบำรุงศาสนา เรืออาสู้สมร เรือขจรจบแดน เป็นตน้

      การสงครามและการปราบกบฏ ในห้วงเวลาระหว่างปี พ.ศ. 2325-2362 อังกฤษได้ขยายอำนาจมา
ทางเอเชียใต้ และตะวันออกไกล ประเทศอินเดียเสยี เอกราชใหแ้ กอ่ ังกฤษ และอังกฤษเริ่มทำสงครามกบั พม่า
อังกฤษไดข้ อใหไ้ ทยสง่ กำลงั ไปช่วย ในฐานะที่เปน็ มติ รประเทศขององั กฤษ และทราบว่าไทยกับพม่าเปน็ ศตั รูกัน
อยู่ ฝ่ายไทยได้จัดทหารไปช่วยอังกฤษตามที่ได้รับการร้องขอ แต่แล้วก็ต้องยกทัพกลับ เพราะอังกฤษจะให้
กองทพั ไทยไปข้ึนอยูใ่ ต้บงั คบั บญั ชาของตน

      ผลของสงครามระหว่างอังกฤษกับพม่า อังกฤษยึดได้เมืองต่าง ๆ ทางใต้ของแม่น้ำสาละวิน มาเป็น
เมืองขึ้นของอังกฤษทั้งหมด ทำให้ปิดเส้นทางที่พม่าใช้เดินทัพมาทำสงครามกับไทย สงครามระหว่างไทยกับ
พมา่ ท่ีดำเนนิ มาเปน็ ระยะเวลายาวนาน ประมาณ 300 ปี จึงยตุ ิลง

      กบฏเจ้าอนุวงศ์ อาณาจักรลาวตกอยู่ในพระราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี มาถึงปี พ.ศ.
2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ ถือโอกาสที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญวนไม่ราบรื่น จึงพยายามจะแยก
ลาวออกจากไทย โดยอาศัยอิทธิพลของญวน เจ้าอนุวงศ์ได้ยกทัพเวียงจันทน์เข้ามายึดเมืองนครราชสีมาไวไ้ ด้
เม่อื วันที่ 14 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2369 แล้วกวาดต้อนผู้คนไปเป็นเชลยเป็นจำนวนมาก ฝา่ ยไทยไดส้ ง่ กองทัพขึน้ ไป
ขับไลก่ องทพั ลาว จากนครราชสีมาไปจนถงึ เวียงจันทน์ ยดึ เมอื งเวยี งจันทน์ไวไ้ ด้ เจ้าอนวุ งศ์หนีไปเมืองแง่อาน
ของญวน แตใ่ นทสี่ ุดก็ถกู จบั ได้ และถกู ส่งมาที่กรุงเทพ ฯ และถึงแก่พริ าลัยเมือ่ ถูกขงั อยไู่ มน่ าน
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22