Page 22 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 22

20

เข้าตีพม่าล้มตายจำนวนมาก เกือบจะทันทัพหลวงของพระเจ้าหงสาวดีที่เมืองกำแพงเพชร ด้วยเล่ห์กล
พมา่ จึงไดซ้ ุ่มทหารไว้สองขา้ งทางดกั รออยู่ พอกองทพั ไทยผา่ นเข้าไปจึงถกู ล้อมจบั ตัวพระมหาธรรมราชา
และพระราเมศวรได้ ทางพระมหาจักรพรรดิจึงทรงยอมสงบศึกเพื่อนำทั้งสองพระองค์กลับมาโดยแลกกับ
ช้างพลายศรมี งคลและพลายมงคงทวปี กองทพั พมา่ จงึ หนกี ลบั ไปได้

      ตอ่ มาเมอ่ื ปี พ.ศ.2106 พระเจ้าหงสาวดไี ด้ส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวายสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
เพอ่ื จะทลู ขอช้างเผือก 2 ช้าง (เนือ่ งจากกรงุ ศรอี ยุธยามชี ้างเผอื กอยู่ 7 ช้าง) นบั วา่ เป็นกลอบุ ายเพื่อจะหาเรื่อง
ยกทัพมาตีไทย ขนุ ศกึ และเสนาบดจี ึงแบ่งออกเปน็ สองฝ่าย ฝ่ายแรกเหน็ ดว้ ยท่ีจะประทานช้างเผือก 2 ชา้ ง เพอ่ื
ปอ้ งกนั การเกิดศึกสงครามเพราะว่าพระเจ้าหงสาวดบี เุ รงนองมคี วามชำนาญการศกึ มาก ฝา่ ยที่สองไม่เหน็ ดว้ ยที่
จะประทานช้างเผือก (มีพระราเมศวร พระยา จักรี พระสุนทรสงคราม) เพราะจะเป็นการอ่อนข้อให้ ในวัน
ข้างหนา้ พระเจา้ หงสาวดจี ะตอ้ งเอาไทยเป็นเมืองขึ้น สรุปกค็ อื ใหห้ รือไม่ให้ก็จะตี สมเด็จพระมหาจกั รพรรดิทรง
มีพระราชดำรไิ ม่ประทานชา้ งเผือก แล้วมีพระราชสาสน์ตอบกลับไปดงั น้ี “ช้างเผือกย่อมเกิดสำหรบั บญุ บารมี
ของพระเจ้าแผน่ ดินผเู้ ป็นเจา้ ของ เม่อื พระเจา้ หงสาวดีได้บำเพ็ญธรรมใหไ้ พบูลย์คงจะไดช้ ้างเผือกมาส่บู ารมีเป็น
ม่ันคงอยา่ ไดท้ รงวิตกเลย” และรบั สงั่ ใหเ้ ตรยี มไพรพ่ ลพร้อมรบอย่างเข้มแข็ง ทางฝ่ายพระเจา้ หงสาวดีได้ยกทัพ
รวมพลที่เมืองเมาะตะมะ จัดทัพใหญ่ออก เป็น 5 ทัพ มีเจ้าเมืองเชียงใหม่ควบคุมกองเรือเสบียง ล่องลงมาถึง
เมอื งตาก รวมไพลพ่ ลเปน็ จำนวนประมาณ 5 แสนคน ส่วนทางอยุธยาได้เตรียมพลพร้อมรบและเรือรบจำนวน
มาก เพ่ือป้องกนั การโจมตจี ากทพั หลวงของหงสาวดีทางดา่ นเจดยี ์สามองค์ แตผ่ ิดคาดพม่ายกทพั มาทางด่านแม่
ละเมาเข้าตีกำแพงเพชรได้เมืองแล้วแยกทัพไปตีสโุ ขทัย เนือ่ งด้วยทางสุโขทยั มกี ำลังน้อยกว่ามากแต่ก็สู้รบเป็น
สามารถในที่สุดกถ็ ูกยึดเมือง จากนั้นพม่าจงึ ล้อมเมืองพิษณุโลก พระมหาธรรมราชาก็ต่อสูเ้ ป็นสามารถเช่นกนั
แต่เกิดไข้ทรพิษขึ้นในเมืองและเสบียงอาหารก็หมดจึงยอมจำนนหลังจากที่พม่าได้หัวเมืองฝ่ายเหนือแล้ว
จึงบังคับใหพ้ ระมหาธรรมราชาและเจ้าเมอื งถอื น้ำกระทำสตั ยใ์ ห้อยู่ใต้บงั คับของพมา่ พร้อมท้งั ส่ังให้ยกทัพตาม
ลงมาเพื่อตีกรงุ ศรีฯด้วย กองทัพพม่ายกมาประชิดเขตเมอื งใกล้ทุ่งลุมพลีพระมหาจักรพรรดิทรงให้กองทัพบก
เรือ ระดมยิงใส่พม่าเป็นสามารถ แต่สู้ไม่ได้จึงถอย ทางพม่าจึงยึดได้ป้อมพระยาจักรี (ทุ่งลุมพลี) ป้อมจำปา
ป้อมพระยามหาเสนา(ทุง่ หันตรา) แลว้ ล้อมกรงุ ศรีฯอยนู่ าน พระมหาจักรพรรดิทรงเหน็ วา่ พม่ามีกำลงั มากการที่
จะออกไปรบเพื่อเอาชัย คงจะยากนัก จึงทรงสั่งให้เรือรบนำปืนใหญ่ล่องไปยิงทหารพม่าเป็นการถ่วงเวลาให้
เสบยี งอาหารหมดหรอื เขา้ ฤดูนำ้ หลากพมา่ คงจะถอยไปเอง แต่พม่าได้เตรียมเรอื รบ และปืนใหญม่ าจำนวนมาก
ยิงใส่เรือรบไทยพังเสียหายหมด แล้วตั้งปืนใหญย่ ิงเขา้ มาในพระนครทุกวัน ถูกชาวบ้านล้มตาย บ้านเรือน วัด
เสียหายมาก ทางพระเจ้าหงสาวดีจงึ มีสาสน์มาวา่ จะรบต่อไปหรือยอมเปน็ ไมตรี เนื่องด้วยทางไทยเสียเปรียบ
มาก พระมหาจกั รพรรดจิ งึ ทรงยอมเป็นไมตรี ทำให้ฝ่ายไทยต้องเสยี ช้างเผือกจาก 2 ชา้ ง เปน็ 4 ช้าง และทุกปี
ต้องส่งช้างให้ 30 เชือก พร้อมเงิน 300 ชั่ง จับตัว พระยาจักรี ไปเป็นตัวประกัน นอกจากนี้ยงั จะขอเก็บภาษี
อากรจากเมอื งมะริดทข่ี นึ้ กับไทยอกี ด้วย ขณะนัน้ สมเด็จพระนเรศวรทรงพระชมมายุได้ 9 พรรษาถูกนำเสด็จไป
ประทบั ทีก่ รงุ หงสาวดีเพื่อเปน็ องค์ประกันดว้ ย
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27