Page 34 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 34
32
วา่ พมา่ ไดเ้ รือของไทยและเรอื ของพม่ามีมากเกรงจะจู่โจมเขา้ กรงุ ศรีจึงใหพ้ ระยารตั นาธิเบศร์นำกำลังซึ่งเกณฑ์
จากเมอื งนครราชสีมา รกั ษาเมืองธนบรุ ี ให้พระยายมราชรกั ษาเมืองนนทบรุ ีป้องกันพม่าจะเข้ามาทางนำ้
การรบครัง้ นี้ใชเ้ วลา 6 เดอื น กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม รวมข้าศึกในประเทศ 10,000 คน
ข้ันที่ 2 การตีเมอื งหน้าด่านและเข้าประชิดพระนคร
กลางเดือนตุลาคม พ.ศ.2308 สิน้ ฤดูฝน พม่ากล็ งมือปฏิบัติ ดงั น้ี
1. ทางทศิ เหนอื เนเมยี วสหี บดแี ม่ทัพนำลงมาทางเมืองสวรรคโลกกองหนง่ึ เจา้ หนา้ ทหี่ ัวเมอื งรายทาง
เห็นข้าศึกมีมากพากันหนีเข้าปา่ ไม่มีเมืองใดต่อสู้ พม่าจึงยึดเมืองพิชยั สวรรคโลก สุโขทัย ตามลำดับ การรบ
ของหัวเมืองเหนือขณะพม่ายึดเมืองสุโขทัยอยู่นั้น เจ้าพระยาพิษณุโลกกับเจ้าเมือง กรมการหัวเมืองเหนือ
ช่วยกันรวบรวมคนเข้าเป็นกองทัพยกไปตีพม่าท่ีเมืองสุโขทัย ขณะที่กำลังรบกันอยูน่ ั้นเจ้าฟ้าจีดโอรสพระองค์
เจ้าแก้วราชบุตรสมเด็จพระเพทราชาเป็นนักโทษอยู่ในกรงหลบหนีจากที่ขังทำนองเจ้าฟ้าจีดเป็นญาติกับ
เจ้าพระยาพษิ ณุโลก จงึ พาสมัครพรรคพวกข้ึนไปยงั เมอื งพษิ ณุโลก ไปถึงเวลาน้ัน เจา้ พระยาพิษณุโลกทำการรบ
อยู่กับพม่าอยู่ที่สุโขทัย เจ้าฟ้าจีดเห็นเป็นโอกาส ตั้งตัวเป็นใหญ่ก็ทำสีหนาทเก็บริบทรัพย์สมบัติ เผาจวน
เจ้าพระยาพิษณุโลกขึ้นครองเมือง พวกชาวบ้านเห็นว่าเป็นเจ้าก็ไม่มีผู้ใดกล้าต่อสู้ เจ้าพระยาพิษณุโลกทราบ
ความจึงเลิกทัพถอยกลับมา จับเจ้าฟ้าจีดได้ให้เอาไปถ่วงน้ำเสีย ฝ่ายพม่าก็เคลื่อนกำลังมายังนครสวรรค์
กำแพงเพชร มไิ ด้ตามตีเมืองพษิ ณุโลก (เทคนคิ การออ้ มผ่านท่หี มายไม่สำคัญ ๆ)
2. ทางทิศตะวันตก ในเดือนตุลาคมเดือนเดียวกันนี้เอง มังมหานรธานำกำลัง 10,000 คน เคลื่อน
กำลังจากเมืองทวายเข้ามารวมพลที่ราชบุรี มีแผนเข้าตีกรุงศรีฯ ทางใต้ สกัดกั้นมิให้ไทยหาเครื่องศาสตราวธุ
เสบยี ง จากทางทะเล จึงจัดกำลงั เปน็ 2 กอง
เมขะระโย นำทัพเรอื มาทางแม่นำ้ แม่กลอง – ทา่ จนี – ตเี มอื งธนบุรี นนทบรุ ี จนถงึ กรงุ ศรี
มังมหานรธา นำทัพบกเคล่อื นท่ีมาทางเมืองสุพรรณบรุ ี ในเดือนธันวาคมพร้อมกัน ฝ่ายพระยา
รัตนาธิเบศร์ซึ่งคุมกำลังพลเมอื งนครราชสีมา รักษาเมืองธนบุรอี ยู่นัน้ เห็น ข้าศึกมากก็ไม่ต่อสู้ท้ิงเมืองหนีกลบั
กรุงศรีฯ พวกชาวเมืองนครราชสมี ากพ็ ากนั หนีกลับบ้านเมอื งของตน
การรบที่นนทบรุ ี พมา่ ยดึ ธนบรุ ีได้แลว้ นำกำลงั เข้าทีต่ ง้ั บางกรวยตรงวัดเขมาทัง้ 2 ฟากแม่น้ำ มุ่งเข้าตี
นนทบุรตี ่อไป สว่ นเรือกำป่ันอังกฤษถอยหนีข้นึ ไปถงึ กรุงศรีฯ กข็ อปนื ใหญร่ ะยะยิงไกลกว่าปืนรายแคมเรือเอา
ลงตั้งในเรือสลุบ(เรือใบเดินทะเล) แล้วกลับมาสู้พม่าที่นนทบุรีอีกและขอเรือยาวบรรทุกพลของกองทัพ
พระยายมราชที่รักษาเมืองนนทบุรี ลูกเรือสลุบเคลื่อนลงมาในเวลากลางคืนพอถึงที่ได้ทางปืนก็ยิงค่ายพม่า
เรือ่ ยไป เวลาจวนสว่างก็ถอยเรอื สลบุ ข้นึ ไปเสีย ยิงพม่าอยู่หลายคนื พม่าหยุดอยู่วัดเขมาไม่อาจขึ้นไปตีนนทบุรี
ได้ ต่อมาพม่าคิดกลอุบายพอเรอื ปืนยิงพม่าทำเป็นแตกหนจี ากคา่ ย องั กฤษกบั ทหารไทยคิดวา่ พมา่ แตกหนี
กจ็ อดเรือบุกรกุ คา่ ยพมา่ เพอ่ื ค้นส่ิงของ ฝ่ายพม่าซมุ่ อย่ใู นสวนหลังค่ายก็ล้อมไล่ฆ่าฟันไทยตายเป็นอันมาก แตก
หนีเรืออังกฤษ เรืออังกฤษเห็นวา่ สู้ไม่ไหวก็ล่องเรือกำป่ันและเรืออลงั ปูนีพร้อมปืนใหญไ่ ทย พวกเก็บหมากพลู
ชาวไทยขึ้นเรือหนีออกนอกประเทศไป ฝ่ายพระยายมราชที่รักษานนทบุรีก็พากันถอยกลับขึ้นไปยังกรุงศรี
อยุธยา เมขะระโยยดึ นนทบรุ แี ลว้ เคลอ่ื นกำลังตอ่ ไปยังกรุงศรฯี การรกุ เขา้ ส่กู รงุ ศรีอยธุ ยาขณะน้ันมังมหานรธา
เคลือ่ นทท่ี างบกมาเขา้ ท่ีอยบู่ ้านสีกกุ กองเรอื เมขะระโยขึ้นไปอยสู่ ามแยกบางไทร ฝ่ายกองทพั เนเมียวสีหบดีซ่ึง

