Page 29 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 29
27
- หลักการจู่โจม คือ เวลาพลบค่ำ นำกำลังเข้าแนวออกตี ไม่ให้ข้าศึกเห็นกำลัง ประมาณการณ์
ขนาดกำลังไม่ได้ ตรวจการณ์ไม่เห็นคนและอาวุธ เข้าตีหลักทิศทางใหม่ที่คาดไม่ถึงเข้าตีลวงทางด้านหน้าให้
สมจรงิ เหมอื นเข้าตีหลกั เม่ือชาวเมืองคงั ทุ่มกำลงั มายบั ยั้งด้านหน้า สมเด็จพระนเรศวรก็ท่มุ กำลงั เขา้ ตีด้านหลัง
ด้วยกำลังมากชาวเมืองไม่สามารถตา้ นทานได้จนพระองคส์ ามารถเข้ายึดเมอื งคงั ได้
การรบทต่ี ำบลหนองสาหรา่ ย ในศกึ ชนช้าง พ.ศ. 2135
สาเหตุ ความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของพระมหาอุปราชาแห่งพม่า คราวสงครามครั้งที่ 9 เมื่อ พ.ศ.
2133 นัน้ ทำใหพ้ มา่ รูส้ ึกเสียเกยี รติเปน็ อันมาก เกรงวา่ ประเทศราชอน่ื ๆ จะพากนั กำเริบ และหมน่ิ พระบรม
เดชานุภาพของพระมหาอุปราชา ซึ่งจะครองราชสมบัติเป็นใหญ่ในบรรดาหัวเมืองพม่าสบื ไป พระเจ้าหงสาวดี
จึงโปรดให้ พระมหาอุปราชายกกองทพั มาตกี รงุ ศรอี ยธุ ยาอกี ครัง้ ท้งั ๆ ท่ีพระมหาอุปราชา ยงั มีความครั่นคร้าม
อยู่
การวางกำลงั และการจัดรูปขบวน
ฝ่ายพม่า พระเจ้าหงสาวดจี ดั กองทพั จากการเกณฑ์กำลังคน 3 หัวเมอื ง คือ
- กองทพั เมืองหงสาวดี กองลว่ งหน้า เจา้ เมอื งจาปะโร กองกำลังสว่ นใหญ่ พระมหาอุปราชา เคล่ือนที่
เขา้ ทางด่านพระเจดยี ส์ ามองค์
- กองทัพเมอื งแปร พระเจา้ แปร
- กองทัพเมืองตองอู ลูกเธอพระเจ้าตองอู ชื่อ นัดจินหนอ่ ง
ฝ่ายไทย พอถึงเดือน ม.ค. 2135 มีการเกณฑท์ ัพไปตีเขมร สมเด็จพระนเรศวรขัดเคืองพระทัยคราว
เสียกรงุ พ.ศ. 2112 เขมรมาซำ้ เตมิ ไทยยงั ไมไ่ ดแ้ กแ้ คน้ กำหนดเคลอื่ นที่ไปเขมรกลางเดอื น ม.ค. 2135 พอออก
คำสั่งไปได้ 6 วัน ในวันที่ 14 ธ.ค. 2135 ได้รับขา่ วจากเมืองกาญจนบุรีว่ากองทัพหงสาวดีเคลื่อนทีเ่ ขา้ มาทาง
ดา่ นพระเจดีย์สามองค์ ตอ่ มาก็ทราบวา่ หวั เมืองเหนอื ว่ามีข้าศึกเคลอื่ นที่มาอกี ทางหน่ึงดว้ ย
สมเด็จพระนเรศวรทรงดำริว่า ข้าศึกเคลื่อนที่มา 2 ทิศทาง มารวมกันได้ก็จะมีกำลังมาก จะต้องชิง
ทำลายทพั พระมหาอุปราชาท่ีเคลื่อนมาถึงเสียก่อนการเปลี่ยนแปลงท่รี วมพล จงึ รบั สั่งให้ย้ายท่ีรวมพลกำหนด
ไวท้ ที่ งุ่ บางขวด เพือ่ ไปตกี ัมพูชาใหไ้ ปตั้งที่ทุ่งป่าโมก แขวงเมอื งวิเศษไชยชาญ อนั เปน็ ทางร่วมท่ีจะไปสพุ รรณบุรี
และเมืองเหนอื
การปฏบิ ัตกิ ารรบ (มหายทุ ธสงครามยทุ ธหตั ถี)
รุ่งเช้า 18 ม.ค.2135 ทุกกองทัพพรอ้ มรบแต่เชา้ สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ ต่าง
แตง่ พระองค์ทรงเครอื่ งยทุ ธพิชัย ช้างพระทนี่ ่งั ทัง้ สองพระองค์ คือ
- พลายภูเขาทอง ชนั้ ระวางเปน็ เจ้าพระยาไชยานภุ าพ เปน็ พระคชาธารสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
เจ้ารามราฆพ เปน็ กลางชา้ ง พระมหานุภาพเปน็ ควาญช้าง
- พลายบุญเรือง ช้ันระวางเป็นเจ้าพระยาปราบไตรจักร เป็นพระคชาธารพระเอกาทศรถ
หมืน่ ภกั ดศี วรเป็นกลางชา้ ง ขุนศรคี ชคง เป็นควาญช้าง พร้อมดว้ ยนายแจง จตลุ งั คบาท
การปะทะ สมเด็จพระนเรศวรไดท้ รงยินเสยี งปนื ดงั สนัน่ หน้าทัพ จงึ ดำรัสใหเ้ จ้าหมื่นทิพเสนาปลัดกรม
ตำรวจ เอาม้าเรว็ ไปดูเหตกุ ารณ์จึงได้นำตัวขุนหมน่ื ในกองทพั ในพระยาศรไี สยณรงคม์ ากราบทูลถวายรายงานว่า

