Page 46 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 46
44
ผลการรบ การรบครัง้ นไ้ี ทยเสยี เปรียบกำลังพลนอ้ ยกว่าจึงไม่สามารถรกั ษาเมอื งพษิ ณุโลกไว้ได้ต้องทิ้ง
เมอื งพิษณุโลกหนไี ปเพชรบรู ณ์ พมา่ เข้าเมอื งพิษณุโลกได้ แตไ่ ม่ได้เสบยี งอาหารทำให้พม่าอดอยากเช่นเดียวกัน
อะแซหวนุ่ ก้แี มท่ ัพถูกเรียกตัวกลบั วตั ถปุ ระสงค์ใหญค่ ือการเข้าตกี รุงธนบุรี จึงถูกระงบั ไป ภายหลงั อะแซหวุ่นกี้
กลบั ไปแล้วแม่ทัพของไทย ได้ตามตีพมา่ แตกกระเจิงออกจากแผ่นดนิ ไทยไป สรปุ ผลการรบไทยรักษาอิสรภาพ
ไว้ได้และกลบั มาปรับปรุงเมืองพษิ ณโุ ลกอกี ครง้ั
บทเรยี นจากการรบ
1. การส่งกำลังเป็นหัวใจของการรบ สงครามยืดเยื้อ พม่าพยายามตัดเส้นทางส่งกำลังของเมือง
พษิ ณุโลกใหไ้ ดจ้ งึ ทำใหพ้ ิษณุโลกอ่อนกำลงั ลง จนต้องท้ิงเมืองไปในท่สี ดุ
2. การขา่ วพม่าดี เพราะอะแซหวุน่ ก้เี ปน็ แม่ทพั ผเู้ ฒา่ กรำศึกมานานมากด้วยประสบการณ์ รอบรชู้ าญ
ฉลาด จึงเดาใจแม่ทัพไทยไดถ้ ูกตอ้ ง เช่นคาดว่าไทยจะตีค่ายพม่าทางด้านตะวันออกก็นำกำลังไปเสริมให้มาก
และตอ่ ไปคาดวา่ ไทยจะตคี า่ ยพม่าทางตะวันตกเฉียงใต้ก็สง่ กำลงั มาคอยสกัดกองหนนุ ฝ่ายไทยมิใหข้ น้ึ ไปช่วยกัน
ได้
3. แม่ทัพพม่าหลอกล่อส่งกำลังไปตีท้ายครัวไทย (ตลบหลัง) คือส่งกำลังไปทางกำแพงเพชร ไปตี
นครสวรรค์ซึ่งเป็นปากประตูที่จะมาแม่น้ำน่าน จนพระเจ้าตากสินต้องถอนกำลังจากค่ายรายทางที่บ้าน
กระดาษไปรักษานครสวรรค์ ทำให้เสน้ ทางสง่ กำลังจากค่ายหลวงไปพิษณุโลกอ่อนกำลงั พม่าจึงตดั กำลังปล้น
เอาเสบียงไปได้
4. การดำเนินทางจติ วทิ ยาของอะแซหวนุ่ กี้แม่ทพั พม่าผู้เฒา่ ขอพักรบหน่งึ วนั ขอดูตัวพระยาจักรแี ละชม
วา่ เป็นแมท่ พั หน่มุ แต่มีฝีมอื สติปัญญาทดั เทยี มกับตนซง่ึ เปน็ ผเู้ ฒ่ากรำศึกมานาน ขอให้รกั ษาตัวไว้ต่อไปจะเป็น
พระเจ้าแผ่นดิน เป็นการพูดให้เกดิ ความเคลอื บแคลงยุยงใหแ้ ตกแยกกับพระเจ้าตากสินกไ็ ด้ เปน็ การดำเนนิ การ
ทางจิตวทิ ยาท่ีลึกซง้ึ
5. ทัพหลวงของฝ่ายไทยใช้กำลังไปตั้งค่ายรักษาเส้นทางส่งกำลังมากเกินไปจนไม่มีกำลังในการ
ดำเนนิ กลยุทธ์เขา้ ตีค่ายพมา่ เพราะตอ้ งมาพะวงรกั ษาค่ายรายทางสง่ กำลังมใิ หร้ วมกำลังกนั ไปตีคา่ ยใดค่ายหน่ึง
ของพมา่ ให้แตกไปทลี ะค่าย
6. การรบครงั้ นพี้ ระเจ้าตากสินไม่ไดร้ ะดมกำลังจากหัวเมอื งอน่ื ๆ มาช่วย เชน่ หวั เมอื งนครราชสีมา
และหัวเมืองปกั ใตท้ ำใหก้ ำลังท่ีจะใชบ้ บี รัดพม่านอ้ ยไป กำลังต่อส้จู งึ ขาดน้ำหนักไม่สามารถเอาชนะพม่าได้
7. การใช้กองหนุนของอะแซหวุ่นกี้เป็นอย่างชาญฉลาด สามารถใช้กองหนุนเข้าช่วยเหลือแก้ไข
สถานการณ์ได้ทันท่วงทเี สมอ และฝ่ายไทยปลอ่ ยใหก้ องหนนุ พม่าปฏิบตั กิ ารไดอ้ ย่างเสรีและมีความรวดเร็ว
8. การใช้กองหนนุ ไมท่ นั เวลาและสถานการณส์ ่งผลเสยี เช่น การวางแผน การเขา้ ตพี มา่ ทางตะวันตก
เฉียงใต้ โดยให้พระยาจักรี พระยาสุรสีห์นำกำลังจากเมืองพิษณุโลกเข้าตีค่ายพม่า พระยานครสวรรค์เป็น
กองหนุนขึ้นจากทศิ ใต้ พระยามณเฑียรนำกำลงั ซมุ่ อยหู่ ลงั คา่ ยพมา่ ทางตะวนั ตก เมื่อเห็นพมา่ รบติดพันกับพระ
ยาจักรีและพระยาสุรสีห์ ให้พระยานครสวรรค์และพระยามณเฑียรเข้าตีกระหนาบช่วยทันที แต่ทัพพระยา
นครสวรรคไ์ ม่สามารถปฏิบัติไดเ้ นือ่ งจากกองหนุนพม่าจากสโุ ขทัยเข้าสกัดก้ันทัพพระยานครสวรรค์ การเข้าตี

