Page 11 - version 4.2
P. 11
การศึกษาความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของการรักษาผู้ป่วยมาลาเรียชนิดไวแวกซ์ขั้นหายขาดอย่างเหมาะสม ฉบับที่ 4.2 วันที่ วันที่ 08 มีนาคม 2564
ด้วยยาทาฟีโนควินหรือไพรมาควินโดยใช้การตรวจวัดระดับเอนไซม์ G6PD เชิงปริมาณ ประเทศไทย
o ผู้ป่วยมีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD และกำลังได้รับยากลุ่ม sulfonylureas
เช่น Glucotrol, Glynase, Metaglip และ Micronase (เพราะอาจเพิ่มความ
เสี่ยงของการเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกในผู้ป่วยกลุ่มนี้)
- ผู้ป่วยตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร*
1
- อาการทางคลินิกเป็นมาลาเรียที่รุนแรง มีภาวะแทรกซ้อน*
การเลิกจากการศึกษา (discontinuation criteria) (กรณีตรวจพบว่าเป็นมาลาเรีย
่
มากกว่า 1 ชนิดในภายหลัง) ซึ่งจะไมยุติการศึกษาในผู้ป่วยรายที่ตรวจพบว่ามีเชื้อชนิด
ผสม (P. vivax และ P. falciparum) ในภายหลัง เนื่องจากเหตุผล ดังนี้
1. Tafenoquine เป็นยาในกลุ่ม Quinolide ที่ออกฤทธิ์ยาว เนื่องจากมี Half life ยาว
ประมาณ 2 สัปดาห์ สามารถรับประทานเพียงครั้งเดียว ตั้งแต่วันแรกที่ตรวจพบเชื้อ
ี
P. vivax อย่างไรก็ตามมอาการไม่พึงประสงค์ที่สำคัญ คือ ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกเฉียบพลัน
(Acute hemolytic anemia) ได้ ในผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD และเนื่องจากยา
Tafenoquine ออกฤทธิ์ยาวและคงอยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน ภาวะไม่พึงประสงค์ดังกล่าว
จึงอาจจะเกิดขึ้นภายหลังจากได้รับยาไปแล้วเป็นสัปดาห์ จึงมีความจำเป็นที่ผู้วิจัยต้อง
ติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจจับภาวะซีดจากเม็ดเลือดแดงแตกที่อาจ
เกิดขึ้นให้ได้แต่เนิ่น ๆ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลัก
2. การศึกษานี้ ไม่ใช่การศึกษาประสิทธิผลของยา เพียงแต่ประเมินว่าผู้ป่วยพบเชื้อ
P. vivax ที่มีอายุ ≥ 16 ปี ได้รับยา Tafenoquine ถูกต้องสอดคล้องกับระดับเอนไซม์
glucose-6-phosphate dehydrogenase (G6PD) หรือไม่ ดังนั้นแม้ว่าจะพบเชื้อชนิดผสม
ในภายหลัง ก็ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจจ่ายยา Tafenoquine ซึ่งได้จ่ายไปแล้วตั้งแต่วันแรก
ที่ตรวจพบเชื้อ P. vivax แพทย์ในโครงการฯ จะเพียงปรับการรักษาโดยใช้ยาตามแนว
ทางการรักษาของประเทศไทยเพื่อให้ครอบคลุมเชื้อชนิดอื่นที่ตรวจพบร่วมด้วยในภายหลัง
เท่านั้น
3. โอกาสที่จะพบเชื้อชนิดผสมภายใน Day 14 เป็นไปได้ยากมากเพราะเชื้อ P.
P.falciparum มีอุบัติการณ์ต่ำมากในจังหวัดยะลา
1 ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยชนิดเชื้อ P. falciparum คำนิยามของผู้ป่วยมาลาเรียรุนแรง คือผู้ป่วยมีความรู้สึกตัวลดลง อ่อนแรง ชักหลายครั้ง มีภาวะเลือด
เป็นกรด น้ำตาลในเลือดต่ำ ซีดมาก ไตทำงานบกพร่อง ตัวเหลือง สภาวะหายใจบกพร่อง มีเลือดออกมาก มีภาวะช็อค ความหนาแน่นเชื้อมาลาเรียสูง
มาก (มากกว่า 10% ในผู้ป่วยมาลาเรียรายที่มีเชื้อ P. falciparum)
: เอกสารอ้างอิง Tropical Medicine and International Health volume 19 suppl 1 pp 7–131 September 2014.
หน้าที่ 11 จาก 63

