Page 54 - นาวิกศาสตร์ เดือน ตุลาคม ๒๕๕๔
P. 54
กองทัพพม่า ๖ กอง มาล้อมกรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ.๒๑๒๙ - ๒๑๓๐
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์น้อย เมื่อกองทัพหลวง ต้องปืนข้าศึก ฉลองพระองค์ขาดตลอดถึงพระกร
ของพระเจ้านันทบุเรงมาถึงอยุธยา เมื่อต้นเดือนยี่ แต่หาเป็นอันตรายไม่ พม่าทนพลังกดดันของ
(มกราคม) ปีจอ นั้น ข้าวกล้าในทุ่งหันตราด้านตะวันออก กำลังทัพไทยไม่ไหว จึงยอมถอนตัวออกจากค่าย
นอกกรุง เพิ่งจะสุกยังเก็บเกี่ยวไม่เสร็จ สมเด็จพระนเรศวร เจ้าพระยากำแพงเพชร ที่เพิ่งตีได้ภายในวันนั้นเอง
โปรด ฯ ให้เจ้าพระยากำแพงเพชร ซึ่งเพิ่งจะเข้ารับ พม่าตีค่ายได้ตอนเช้า สมเด็จพระนเรศวร ตีชิงคืน
หน้าที่สมุหพระกลาโหม ใหม่ ๆ ให้คุมทหารออกไป ได้ในพลบค่ำวันเดียวกัน
ตั้งกองรักษา การเก็บเกี่ยวข้าว ย่ำอดีต เชาว์ รูปเทวินทร์ เมื่อแย่งชิงค่ายกลับคืนได้แล้ว จึงเสด็จกลับ
หน้า ๓๔๔ - ๓๔๕ เล่าไว้ว่า ทัพเจ้าพระยา พระนคร แล้วมีพระราชดำรัสตรัสสั่งให้เอาตัวพระยา
กำแพงเพชร ถูกทัพพม่าจากกองทัพหน้าตีแตกพ่าย กำแพงเพชร ไปประหารชีวิตเสีย แต่สมเด็จพระราช
หนีเข้ามาในพระนคร สมเด็จพระนเรศวร ทรงพิโรธ บิดาได้รีบเสด็จมาขอพระราชทานชีวิตไว้ จึงให้ถอด
ยิ่งนัก ตรัสว่า “ตั้งแต่รบกันมาจนถึงบัดนี้ ไทยไม่เคย ออกจากตำแหน่ง แต่นั้นมาข้าราชการทั้งปวงใน
พ่ายแพ้แก่ข้าศึกเลย” เจ้าพระยากำแพงเพชร ออกไปทำ กรุงศรีอยุธยา ก็พากันเกรงพระราชอาญา ต่างตั้งหน้า
เสียการ อันจักเป็นเหตุให้ไพร่พลกลับกลัวเกรงพม่า รบพุ่งโดยทั่วกัน เป็นที่น่าสังเกตว่าสมเด็จพระนเรศวร
ข้าศึก แล้วพระองค์กับสมเด็จพระเอกาทศรถ พระอนุชา กับสมเด็จพระเอกาทศรถ ไม่เคยบาดเจ็บเป็นแผล
รีบเสด็จลงเรือพระที่นั่งลำเดียวกัน ยกออกรบพุ่ง จากการสู้รบ หรือถูกปืนข้าศึกเลย
ตะลุมบอนกับข้าศึกที่ทุ่งชายเคืองในทันทีนั้นเอง เจ้าพระยากำแพงเพชรคนนี้ ตามประวัติกล่าวว่า
สู้รบกันอยู่จนถึงพลบค่ำ จนสมเด็จพระเอกาทศรถ เคยรับราชการมาตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
๐52 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๔

