Page 55 - นาวิกศาสตร์ เดือน ตุลาคม ๒๕๕๔
P. 55
ติดต่อกันมาจนถึงสมเด็จพระมหาธรรมราชา ท่าน ผลงานของกองกำลังนอกแบบ (กองโจร)
ทำงานฝ่ายพลเรือนทางด้านเวียง วัง คลัง นา ในระหว่างที่กองทัพในแบบกำลังสู้รบตีเมือง
มาโดยตลอด ไม่เคยว่าการกลาโหมฝ่ายทหารเลย ป้องกันเมืองกันอย่างดุเดือดเผ็ดมันนั้น กองกำลัง
เพิ่งมาว่าการกลาโหมเข้าวันแรก ก็เกือบหัวขาด นอกแบบที่ สมเด็จพระนเรศวร ให้จัดตั้งขึ้นในพื้นที่
เจ้าพระยากำแพงเพชร เป็นคนยุคเก่าที่ยังกลัวพม่า ต่าง ๆ นั้นได้ปฏิบัติงานของตนอย่างเข้มแข็งประสบ
อยู่ในจิตวิญญาณ เมื่อนายกลัวไม่สู้ลูกน้องก็ไม่สู้ ผลสำเร็จอย่างดียิ่งต่างพากันตีตัดการลำเลียงเสบียง
ด้วย สมเด็จพระนเรศวร ท่านเข้าใจจิตวิทยา ด้านนี้ดี อาหารของพม่าที่อุตส่าห์มาตั้งกองทัพทำนาอยู่ที่
สมเด็จพระนเรศวร ท่านเพ่งเล็งในด้านขวัญ เขตเมืองกำแพงเพชร ตั้งแต่ปีที่แล้ว หวังจะมีเสบียง
และกำลังใจของทหาร ถ้าเป็นนักมวยถอดใจไม่ว่า ใช้กินได้แรมปี กลับส่งจากแนวหลังสู่แนวหน้าที่
จะมีกำลังมากมายแค่ไหน ก็พ่ายแพ้ได้ง่าย ๆ อยุธยาได้ไม่สะดวก ส่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ครั้นพม่า
เจ้าพระยากำแพงเพชร ออกไปทำเสียการมาดังนี้ ส่งกองทัพขนาดใหญ่มาไล่ล่าทำลาย กองโจรก็หาย
ย่อมกระเทือนขวัญทหารไทยไปทั่วกองทัพ ที่รักษา แวบไปในพริบตา พอเผลอก็จะถูกกองโจรโจมตีตอดนิด
กรุงอยู่ในขณะนั้น เป็นถึงสมุหพระกลาโหม ประเดิม ตอดหน่อย สูญเสียกำลังพลไปเรื่อย ๆ จนพม่า
ศึกแรกก็วิ่งหนีหน้าเริดเข้ากรุงเสียแล้ว พระองค์จึง ขวัญตก ในที่สุดกองทัพใหญ่พม่าที่ตั้งประชิด
ต้องรีบพลิกสถานการณ์ ชิงความเอาเปรียบด้าน กรุงศรีอยุธยาอยู่ก็เริ่มขาดแคลนเสบียง เมื่อเกิด
กำลังใจทหารในทันที นั่นคือ ท่านจูงมือน้องชาย อัตคัดแล้ว เลยมีความเจ็บไข้เกิดขึ้นในกองทัพพม่า
ของท่าน คุมทหารออกไปโจมตีชิงค่ายกลับคืน ที่ตั้งประชิดพระนคร การขาดแคลนเสบียงอาหาร
ภายใน ๒๔ ชั่วโมง และก็ทำได้สำเร็จสมความตั้งใจ กับโรคภัยไข้เจ็บมักจะเป็นของคู่กัน
นี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่สมเด็จพระนเรศวร ท่านไม่ใช้คน ความจริงพม่าวางแผนให้กองทัพพระเจ้าเชียงใหม่
แก่ที่จิตลึก ๆ ยังกลัวพม่าอยู่ เหมือนมวยแพ้เชิงกัน ซึ่งมีกำลังพลมากมายถึงประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ คน
มาหลายครั้ง ท่านจึงใช้คนหนุ่มรุ่นท่าน ถึงจะน้อยตัว ทำหน้าที่ส่งเสบียง กำลังพลมากมายขนาดนี้ไม่น่า
ก็ใจสู้เป็นการ “คบเด็กสร้างบ้าน กู้เมือง” จะมีปัญหาในด้านทำหน้าที่กองคาราวานลำเลียง
ศึกสงครามพระเจ้านันทบุเรง ครั้งนี้ฝ่ายพม่า เสบียง และจัดกำลังคุ้มกัน จากกำแพงเพชร ลำน้ำปิง
เตรียมกำลังทัพตั้งใจจะมาโจมตีกรุงศรีอยุธยา สามารถใช้เป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำอย่างดี ๑ ปีเศษ
ในลักษณะเป็นฝ่ายรุกเต็มที่ พม่าพยายามโจมตี ที่มาทำนา พม่าน่าจะต่อเรือต่อแพ สำหรับใช้
เมืองหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เพราะกองทัพไทย มิใช่ ลำเลียงเสบียงอาหารไว้มากพอสมควร น่าจะมีการต่อ
แค่รอรับอยู่ภายในกำแพงเมือง แต่ออกไปรบรุก เรือรบด้วย แต่ในประวัติศาสตร์ไม่กล่าวถึงการใช้
เป็นฝ่ายเข้าตีพม่านอกกำแพงเมืองด้วย โดยเฉพาะ กองเรือลำเลียงของฝ่ายพม่า หรือการใช้กองเรือรบ
กองทัพเรือมีบทบาทมาก ของฝ่ายพม่า มีแต่กล่าวถึงกองทัพเรือของฝ่ายไทย
พงศาวดารพม่า ฉบับหอแก้วกล่าวว่ากองทัพพม่า แสดงว่าฝ่ายไทยได้การครองลำน้ำ ชาวเรือทั้งหลาย
ตั้งล้อมกรุงศรีอยุธยานานหลายเดือน ได้พยายาม คงทราบดีว่า เมื่อได้ครองลำน้ำได้ครองทะเล ก็มีเสรี
แต่งทหารฝีมือดีเข้าปล้นพระนครหลายครั้ง ทุกช่อง ในการปฎิบัติเต็มที่ นี่คือ จุดแข็งของกองทัพเรือ
ทางต่าง ๆ แต่ก็เข้าเมืองไม่ได้จนแล้วจนรอด ด้วย ประการหนึ่ง
ทหารไทยต่อสู้แข็งแกร่งอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน
พม่ายกเข้ามาคราวใด ไทยก็ตีเอา ต้องกลับถอยคืน ยุทธศาสตร์รับ ยุทธวิธีรุก
ไปค่ายที่เดิมทุกคราว พระเจ้าหงสาวดี ตีพระนครอยู่ เมื่อพม่าเริ่มอ่อนแรง เพราะขัดสนเสบียงอาหาร
กว่าเดือน ก็ไม่ประชิดเข้ามาได้ และการเจ็บไข้ได้ป่วย สมเด็จพระนเรศวรก็เริ่ม
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ ๐53

