Page 9 - การจัดการเรียนรู้บูรณาการ ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
P. 9

การจัดการเรียนรู้บูรณาการด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เล่ม 2










                    โครงการพัฒนาศักยภาพความเป็นมนุษย์ : กิจกรรมโครงงานบูรณาการ



                                                                                         ฝ่ายวิชาการ
                                                              โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน



               ความสำคัญของการจัดการเรียนรู้บูรณาการด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์

                      การจัดการศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษาของโรงเรียน ตามหลักสูตรการศึกษา

               ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
               ปทุมวัน แบบบูรณาการนั้นเป็นการจัดการศึกษาในลักษณะของการบูรณาการแบบโครงงานที่เน้น
               ผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning) เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้

               ตลอดชีวิต สอดคล้องกับหลักทฤษฎีการเรียนรู้ Constructivism (ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเอง)
               และการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ซึ่งมีขั้นตอนการเรียนรู้ที่เริ่มจากการแสวงหาความรู้
               กระบวนการคิด และทักษะในการแก้ปัญหา ซึ่งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถและ
               สามารถเรียนรู้ได้ หากได้รับการกระตุ้นและส่งเสริมอย่างถูกต้อง สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ของแต่ละคน
               โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการความรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้กับการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

               เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ที่เรียนกับการนำไปใช้ นอกจากนั้นแนวทางของการจัดทำ
               โครงงานยังยึดปรัญชาการเรียนรู้ “คิด-ทำ-จำ-แก้ไข-พัฒนา” ซึ่งเชื่อว่าการเรียนรู้ของมนุษย์จะยั่งยืนและต่อเนื่อง
               ถ้าได้ยึดกระบวนการเรียนรู้ ลงมือคิด ลงมือปฏิบัติและจะทำให้เกิดการจดจำ แก้ไขปัญหาระหว่างทำและ

               พัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการจัดการศึกษาในลักษณะของการบูรณาการแบบโครงงานนั้นยังสอดคล้องกับ
               ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งประกอบด้วยหลัก 3R และ 4C โดย 3R ในที่นี้ประกอบด้วย
               การอ่าน (Reading), การเขียน (Writing) และคณิตศาสตร์ (Arithmetic) และ 4C ประกอบด้วย การคิดวิเคราะห์
               (Critical Thinking), การสื่อสาร (Communication), การร่วมมือ (Collaboration) และความคิดสร้างสรรค์
               (Creativity) การจัดการศึกษาของโรงเรียนเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเองจากสื่อ/หรือการเข้าร่วมกิจกรรม

               เสริมการเรียนรู้ตามที่กำหนดไว้ในแต่ละสาระการเรียนรู้ซึ่งเป็นการเรียนรู้รายบุคคล และเรียนเป็นกลุ่ม
               ตลอดจนผู้เรียนพร้อมที่จะศึกษาแบบบูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆได้ จึงได้นำแนวทาง
               เรื่องการทำโครงงานมาประยุกต์ใช้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยกำหนดให้นักเรียน

               ทำโครงงาน และกำหนดให้มีการเก็บคะแนนจากโครงงานเป็นส่วนหนึ่งของการวัดและประเมินผลการเรียน
               ของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้นั้น ๆ โดยจะเก็บในลักษณะของการประเมินผลระหว่างภาคเรียนคิดเป็นคะแนน
               เก็บ 10 คะแนน ซึ่งคะแนนดังกล่าวจะนำไปรวมกับคะแนนการสอบปลายภาค เพื่อตัดสินผลการเรียน
               ในแต่ะกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่อไป
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14