Page 76 - book.sakeao62
P. 76
เอกสารโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาจังหวัดสระแก้ว :
การส่งเสริมสมรรถนะและทักษะสําคัญในศตวรรษที่ 21 หน้า 57
จากความหมายของทักษะปฏิบัติสามารถสรุปได้ว่า ทักษะปฏิบัติ คือ กระบวนการเรียนรู้ที่สําคัญ
ของมนุษย์อย่างเป็นขั้นตอน เกิดขึ้นจากลักษณะการเรียนรู้ที่ลงมือปฏิบัติ ลงมือกระทําในสิ่งที่เรียนรู้
จนเกิดความชํานาญในสิ่งที่ทํา ใช้สมองในการวางแผนอย่างเป็นระบบ ใช้ร่างกายในการลงมือปฏิบัติ
ฝึกฝน ทําซ้ํา ใช้ความคิดที่ประเมินผลการปฏิบัติ ปรับปรุงพัฒนาเพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ สู่ผลลัพธ์
ของทักษะปฏิบัติ คือ องค์ความรู้ของงานที่ทําจะตกตะกอนเป็นทักษะที่ติดตัวของผู้ปฏิบัติตลอดไป เมื่อนํา
ทักษะปฏิบัติมาใช้ในการเรียนการสอน ทําให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการเรียนรู้ตรงตามคุณสมบัติของผู้เรียน
ในการศึกษาภาคบังคับที่มุ่งเน้นความเข้าใจในองค์ประกอบของสาระการเรียนรู้ ซึ่งผู้เรียนจําเป็นต้องได้รับ
การฝึกฝน ถ่ายทอด เรียนรู้ และฝึกฝนจนเกิดเป็นทักษะ ซึ่งจะสามารถแสดงออกมาอย่างอิสระได้
การถ่ายทอดทักษะจึงเป็นเรื่องจําเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถรับรู้และประเมินผลได้อย่างเต็มรูปแบบ
เมื่อผู้เรียนเกิดทักษะที่มีความชํานาญแล้วการวิเคราะห์องค์ประกอบ การสังเคราะห์งาน การวิจารณ์
คุณค่า การถ่ายทอดความรู้สึกจะเกิดขึ้นอย่างอิสระและสร้างสรรค์ เป็นรากฐานความคิดและฐานความรู้
ที่มีความหนักแน่นและเหมาะสม ซึ่งเกิดจากการลงมือปฏิบัติที่เรียกว่า “คนมีทักษะ” สามารถเข้าใจ
ในลักษณะของสรรพวิชาทุกแขนง เมื่อความเข้าใจเกิดขึ้น การเห็นคุณค่า คุณประโยชน์จะติดตามมาเพื่อ
อนุรักษ์ และพัฒนา เกิดความสัมพันธ์ที่ดีงามล้วนมีปัจจัยสําคัญมาจากทักษะปฏิบัติทั้งสิ้น
ทักษะด้านการปฏิบัติ เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่มุ่งช่วยพัฒนาผู้เรียนในด้านการปฏิบัติ การกระทํา
หรือการแสดงออก ที่เหมาะสมกับวัย สถานการณ์ และความสามารถ จึงมีแนวทางที่แตกต่างจากการ
จัดการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัยและจิตพิสัย ซึ่งมีรูปแบบที่สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทักษะ ดังนี้
ทักษะปฏิบัติในหมวดการเรียนรู้ของ บลูม (Bloom) และคณะ ซึ่งประกอบด้วยการเรียนรู้
ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) ซึ่งเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้ด้าน สติปัญญา และจิตพิสัย (Affective
Domain) ซึ่งเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับจิตใจ ซึ่งบลูมใช้คําว่า Psychomotor Domain หรือ
ทักษะพิสัย ซึ่งเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้ที่บ่งบอกถึงความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่ว
เกิดความชํานาญสามารถปฏิบัติได้ และเป็นความสามารถที่คงทน ผลของทักษะปฏิบัติจะเห็นได้อย่างเป็น
รูปธรรมจากผลของการกระทํา ซึ่งแสดงผลของความสามารถออกมาโดยตรง คุณภาพของงานเป็นตัวชี้วัด
ระดับของทักษะ โดยธรรมชาติของการพัฒนาทักษะปฏิบัติด้วยพฤติกรรม 5 ขั้น ดังนี้
1. การรับรู้ เป็นกระบวนการแรกที่ทําให้ผู้เรียนเลือกตามความสนใจที่จะลงมือปฏิบัติ
2. การทําตาม หรือลอกเลียนแบบ เป็นการทําซ้ําและสร้างโครงสร้างของการ
ปฏิบัติด้วยตนเองจากการแนะนําของผู้สอนหรือผู้ชี้แนะ
3. การหาความถูกต้อง เป็นพฤติกรรมที่ผู้เรียนสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง
โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องชี้แนะ ซึ่งจะพัฒนาเป็นรูปแบบของตนเองก็ได้ ในจุดนี้ผู้เรียนสามารถใช้
กระบวนการเรียนรู้สร้างงานอย่างสร้างสรรค์เข้าช่วยในทักษะของตน เกิดความใหม่และความแปลกโดย
สามารถปรึกษาหรือค้นคว้าด้วยตนเองได้และเปิดอิสระเสรีด้านทักษะ

