Page 73 - book.sakeao62
P. 73
เอกสารโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาจังหวัดสระแก้ว :
การส่งเสริมสมรรถนะและทักษะสําคัญในศตวรรษที่ 21 หน้า 54
ของการศึกษาในปัจจุบัน มีความรู้แต่ไม่ลงมือทําก็ไม่สามารถเกิดทักษะการเรียนรู้ได้ สอนเพียงแค่ทฤษฎี
โดยไม่นําไปสู่การปฏิบัติก็ไม่ทําให้ผู้เรียนเข้าถึงแก่นแท้แห่งปรัญญาของการจัดการศึกษาได้
การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เป็นหนึ่งในกระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ที่ในยุคปัจจุบันให้
ความสําคัญและความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะทักษะการเรียนรู้คือผลลัพธ์ของการศึกษาที่สามารถทําให้
ผู้เรียนเกิดความเข้าใจที่คงทน ดํารงอยู่ในตนและพร้อมที่จะเป็นฐานความรู้ที่อยู่สําคัญ เพื่อต่อยอดความรู้
ในอนาคตได้เป็นอย่างดี ครูในยุคปัจจุบันควรหันมามองและสนใจในสาระการเรียนรู้ที่ตนปฏิบัติงานสอน
และถอดรหัสความรู้ที่ตนสอนออกมาในรูปแบบของทักษะ และจบด้วยการประเมินผลทักษะการเรียนรู้
ผลประโยชน์ของความรู้จะตกอยู่ที่ผู้เรียนของผู้สอนโดยตรง ทักษะการเรียนรู้หรือที่ในภาษาอังกฤษ
เรียกว่า “Skill” จึงเป็นผลการเรียนรู้ที่ทําให้เห็นรูปธรรมของการสอนมากที่สุด หากวิเคราะห์ทฤษฎีการ
เรียนรู้ของบลูม (Bloom, 1976) ว่าด้วยเรื่องการนําทฤษฎีของบลูมมาใช้ในการจัดทําแผนการจัด
การเรียนรู้ โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ของการจัดการเรียนรู้ เรามักพบว่า จุดประสงค์การเรียนรู้ประกอบไป
ด้วย จุดประสงค์ด้านความรู้ จุดประสงค์ด้านทักษะ และจุดประสงค์ด้านจิตพิสัย ซึ่งสอดคล้องกับ
จุดมุ่งหมายการเรียนรู้ของบลูมที่แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain)
ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) และด้านจิตพิสัย (Affective Domain) ซึ่งครูผู้สอนต้อง
คํานึงถึงการจัดการเรียนรู้ของตนเองว่าสอดคล้องกับจุดประสงค์ทั้ง 3 ข้อหรือไม่ โดยส่วนใหญ่ ผู้เรียนจะ
ได้รับด้านความรู้และการปลูกฝังจิตพิสัยจากความรับผิดชอบ แต่ด้านการลงมือปฏิบัติยังพบและปรากฏ
น้อยในรายวิชาที่มีเนื้อหาจํานวนมาก ด้วยข้อจํากัดด้านเวลา เป็นต้น
ที่มา : https://sirikanya926.wordpress.com/2014/01/18/blooms-revised-taxonomy-2001/

