Page 78 - book.sakeao62
P. 78
เอกสารโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาจังหวัดสระแก้ว :
การส่งเสริมสมรรถนะและทักษะสําคัญในศตวรรษที่ 21 หน้า 59
เพราะการเกิดทักษะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าไม่ลงมือสร้างก็ไม่เกิดเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นทักษะสร้างได้ แต่
ครูต้องร่วมสร้างกับผู้เรียนจึงจะทําให้เกิดทักษะ และสอดคล้องกับการเรียนรู้ในยุคปัจจุบัน
ทักษะปฏิบัติมีความสําคัญต่อระบบการเรียนการสอน โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนใน
ปัจจุบันที่เน้นผู้เรียนเป็นหลักในการจัดการเรียนรู้และเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ทักษะปฏิบัติจึงมี
ความสําคัญเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เรียนต้องฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของตน และยังเป็นสิ่งที่ตอบคําถาม
ทางการเรียนรู้ที่สามารถประเมินผลการเรียนรู้ และพบร่องรอยหลักฐานการเรียนรู้ได้ชัดเจนที่สุด
ทักษะปฏิบัติทําให้ผู้เรียนได้รับการฝึกฝน สร้างความรับผิดชอบเกิดความรู้ความสามารถ อธิบายถึง
กระบวนการในการเรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ของตัวผู้เรียนเอง วิจารณ์ พานิชย์
และวิมลศรี ศุษิลวรณ์ (2560: 50-51) ได้กล่าวว่า หลักสําคัญของการฝึกปฏิบัตินั้น ต้องฝึกฝนบ่อย ๆ
จนคล่อง และถึงแม้คล่องแล้วก็อาจลืมได้ จึงควรมีการซ้อมเพิ่มเติมด้วย ซึ่งมีข้อสําคัญที่ครูพึงคิดถึงสภาพ
ความคิดในสมองของนักเรียนอยู่ตลอดเวลา ทั้งในระหว่างการสอนสาระโดยตรง ว่าหลังจากการนําเสนอ
ความรู้ใหม่แก่ศิษย์แล้ว สภาพความคิดหรือกระบวนการในสมองของนักเรียน คือขั้นการทําความเข้าใจ
ความรู้นั้น ในมิติที่ลึก และเชื่อมโยงยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาความคล่องแคล่วในทักษะและกระบวนการ
ที่เกี่ยวข้อง และเมื่อเกี่ยวข้องกับทักษะก็ย่อมต้องการการฝึกปฏิบัติ ซึ่งครูต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่าง
ความรู้เชิงกระบวนการ (Procedural Knowledge) ซึ่งนําไปสู่ทักษะกับความรู้เชิงข้อเท็จจริง
(Declarative Knowledge) ซึ่งการฝึกปฏิบัติเป็นการฝึกความรู้เชิงกระบวนการไม่เกี่ยวกับความรู้เชิง
ข้อเท็จจริง ซึ่งพัฒนาการของความรู้เชิงกระบวนการ มี 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 คือ ขั้นเข้าใจ
(Cognitive Stage) นักเรียนทําความเข้าใจ ทักษะ ยุทธศาสตร์ และกระบวนการของเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
ขั้นที่ 2 คือ ขั้นเชื่อมโยง (Associative Stage) นักเรียนฝึกวิธีการด้วยการวิเคราะห์ และขั้นที่ 3
คือ ขั้นอัตโนมัติ (Autonomous Stage) นักเรียนสามารถปฏิบัติได้อย่างอัตโนมัติ ยุทธศาสตร์และ
รายละเอียดของครูในการฝึกนักเรียนอย่างมีแบบแผน ได้แก่ การบอกโมเดลหรือขั้นตอนการะบวนการ
การฝึกปฏิบัติโดยมีครูช่วยแนะนํา การกํากับอย่างใกล้ชิด การฝึกปฏิบัติอย่างมีแบบแผนบ่อย ๆ การฝึก
หลายแบบ การฝึกให้คล่อง การฝึกตามตัวอย่างผลงาน และการฝึกฝนก่อนการทดสอบ เมื่อพิจารณา
ความสําคัญของทักษะปฏิบัติและ เมื่อผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติเกิดเป็นทักษะ ผู้เรียนเกิดความรู้เชิง
ข้อเท็จจริง หรือมีผลการเรียนรู้ที่แสดงให้เห็นในเชิงประจักษ์และ วิจารณ์ พานิชย์ (2559: 164)
ได้กล่าวว่า การเรียนจากการปฏิบัตินั้นมีรูปแบบที่หลากหลาย และใช้ความคิดสร้างสรรค์จากอาจารย์ใน
การออกแบบกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างไม่จํากัด โดยที่อาจารย์ต้องออกแบบและดําเนินการอย่าง
รอบคอบ ซึ่งในตอนท้ายต้องมีกิจกรรม Debriefing Reflection ใคร่ครวญทบทวนการเรียนรู้ด้วยเสมอ
กิจกรรมการเรียนโดยการปฏิบัติเป็น “ยําใหญ่” ของการจัดการเรียนรู้หลากหลายเพื่อให้นักศึกษาได้
ค้นพบและสร้างความรู้จากประสบการณ์ตรง ทั้งที่เป็นประสบการณ์จําลองและประสบการณ์จริง
การเรียนรู้แบบนี้จะเกิดความผูกพัน (Engagement) ของผู้เรียนต่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่แตกต่างกันตั้งแต่
ปานกลางไปจนถึงแรงสุด ๆ ก่อประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ทําให้จารึกจดจําไปนานหรือตลอดชีวิต และ

