Page 12 - คู่มือการปลูกฝังอุดมการณ์ทางทหาร
P. 12
๙
ั
ิ
ั
่
ิ
ี
ั
่
่
ํ
่
ิ
ั
็
“สิงทีเหมือนกนควรได้รับการปฏบติเช่นเดียวกัน และสงทต่างกนกควรได้รบการปฏบติเช่นเดียวกน” และคากล่าว
ั
ั
ั
็
ํ
ั
ิ
ั
ิ
่
้
ุ
่
่
ของศาสตราจารย์ธนนทร์ กรัยวเชียร ทีวาในฐานะทีเปนผูบงคบบญชาซึงมีอานาจควบคม และบนดาลโทษ
่
ั
ั
ในตําแหน่งหนาทใหแกผูอน ซึงอยในบงคบบญชาทุกคน การใหความเทียงธรรมดังกล่าวจะทาไม่ได้เลย ถ้าละเวน
ั
่
ั
้
่
้
้
ี
้
่
่
้
่
ื
ํ
ู
่
ี
่
ั
ี
้
ั
เสียซึงระบบคุณธรรม ผูบงคบบญชาคนใดกตามทยังฝักใฝ่ในการให้ความดีความชอบแกญาติพนอง หรือพรรคพวก
้
่
่
ั
็
่
ิ
เกนกวาทีบุคคลเหล่านีจะพึงมีได้ ยิงจะได้รับการเดียดฉันท์จากผูใต้บังคับบัญชา ในฐานะทีละเลยต่อหน้าทีของตน
้
่
่
่
่
่
้
่
้
และจะมีการครหาในความเห็นแก่ตัว และเห็นแกการสรางบารมีอนมิชอบ
ั
้
่
๑.๖ ความเป็นคนใจกวาง (Openness) ผูนาต้องเป็นคนใจกวาง โดยยอมใหมีการไหลของขาวสาร
้
้
ํ
้
ิ
ั
ํ
ิ
้
์
้
่
่
่
ภายในหนวยงานอยางอสระ และรับฟงคาวพากษวิจารณ์จากผูบังคับบัญชา เพือนร่วมงาน และผูใต้บังคับบัญชา
ิ
้
ํ
่
้
โดยไม่อายต่อคาวิพากษ์วิจารณ์ และพยายามแกไขขอผิดพลาดทีเกดขน
ึ
้
้
็
็
ํ
๑.๗ การเคารพตนเอง (Self-respect) ผูนาต้องเคารพตนเองในความเปนอาชีพ และในความเปนมนษย
ุ
์
ึ
้
่
ผูทียดมันในคุณธรรมจะประพฤตตนในลักษณะทีสร้างชือเสียง รกษาช่อเสียงให้แก่ตนเองและหน่วยงานในความ
ื
ิ
่
่
ั
่
็
เปนทหารอาชีพเสมอ
้
่
้
่
้
่
๑.๘ ความออนนอมถอมตน (Humility) ผูนาต้องมีความออนนอมถ่อมตนต่อทุกคน โดยไมโออวด
ํ
่
้
้
่
ี
ั
ื
ตนเองวาเกงหรือเหนอกวาผูอนลักษณะเช่นน จะทําให้ได้รบความนบถอเกรงใจจากคนรอบขาง ดังคากล่าว
้
่
ํ
ั
่
ื
่
้
ื
ื
ของเหลาจอ (Lao Tzu) ทีว่า “คนทีเขย่งเท้าย่อมยืนอยูได้ไม่นาน คนทีก้าวยาวเกินไปย่อมไปได้ไม่ไกล” และ
่
่
่
่
๊
“ผูสําแดงตนจะไม่ผุดผ่อง ผูอวดอางตนจะไม่โชติช่วง ผูยกตนจะไร้วรกรรม ผูผยองลําพองจะไม่ยังยืน” หรือตามท ่ ี
้
่
้
้
ี
้
้
่
่
่
นายพลไอเซนฮาว (Dwight D. Eisenhower) กล่าวไว้วา “ความออนน้อมถ่อมตนจะต้องเป็นส่วนหนึงของการ
ั
ั
่
ื
ี
้
ิ
ิ
่
ั
ดําเนนชีวตคน เพราะความสรรเสริญทีเขาได้รบ มาจากเลือดเนือของเพอนนกรบด้วยกนและมาจากการเสยสละ
่
่
้
ู
ั
ื
้
ของเหลาเพอนของคนผนน
ื
ํ
๑.๙ ความเคารพให้เกยรติ (Honor) หนาทีของผูนาในการรับราชการทหารก็คอการเคารพ
้
ี
่
้
่
ให้เกยรติอยางสูงสุดต่อความรบผิดชอบของกองทัพต่อประเทศชาติ และบรรพบุรุษผูซึงเสียสละต่อประเทศชาติ
ั
้
่
ี
้
ึ
้
่
่
จงเปนหนาทีของผูนาทีจะต้องยึดมันในสิงทีถกต้อง ประเสริฐ และมจตใจกวางขวาง
ํ
็
่
้
่
่
ิ
ี
ู
๒. ความจงรกภกดี (Loyalty)
ั
ั
ความจงรักภกดีเปนคณลักษณะทีเปนสามมิติซึงผูนาจะต้องแสดงความเชือถอศรัทธา
ื
ํ
่
่
้
็
ั
็
ุ
่
้
่
ั
้
(Faithfullness) ต่อผูบงคบบญชา เพอนรวมงานและผูใต้บังคับบัญชา โดยผูนําจะต้องแสดงความจงรักภักดีต่อผูอืน
ั
ื
ั
่
้
่
้
่
ั
่
เสียกอน กอนทีจะหวงให้ผูอนจงรักภกดี
่
่
ื
ั
้
๓. ความมุงมันในงาน (Commitment)
่
่
ํ
ํ
้
ื
ื
่
ุ
่
่
้
่
ผูนาต้องมีความมุงมันในงาน กล่าวคอ ผูนาต้องอทิศตัวเพอชาติ กองทัพ และหนวยงานของตน
้
อย่างเต็มที ดังคากล่าวของเพลโต (Plato) นกปรัชญาชาวกรีกว่า “คนเราไม่ได้เกิดมาเพือตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านัน
่
ํ
่
ั
ํ
้
แต่เกดมาเพอประประเทศชาติของเราด้วยเช่นกน” และคากล่าวของโรนาล แรแกน (Ronald Reagan) ว่า “ผูนานน
ํ
ื
้
่
ั
ั
ิ
ิ
่
่
่
่
่
็
่
่
้
็
่
่
้
่
่
เมือได้ตัดสินใจลงไปแลววาสิงใดทีตนเองได้กระทําเปนสิงทีถูกต้องแลวกจะต้องมีความมุงมันทีจะคงยืนตามสงทีตน
ํ
ุ
่
ู
ได้กระทาไป ไม่วาจะถกท้าทายจากอปสรรคใด ๆ ก็ตาม”

