Page 255 - E-book การประชุมวิชาการครั้งที่ 36
P. 255
(4)
Chainarong N และคณะในปี ค.ศ. 2021 พบทารกบวมน้ำจากโรคฮีโมโกลบินบาร์ท ได้ร้อยละ 27 และพบความ
ผิดปกติของสายแอลฟ่าชนิด ฮีโมโกลบินคอนสแตนท์สปริง (Hemoglobin Constant Spring, Hb CS) ชนิด
homozygous ได้ร้อยละ 1
2) ทารกพิการโดยกำเนิด ที่พบบ่อยที่สุดคือ cystic hygroma รองลงไปได้แก่ หัวใจพิการ หรือ
หัวใจเต้นผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่ง supraventricular tachycardia หรือ complete heart block นอกจากนี้
อาจเกิดจาก volvulus, meconium peritonitis หรือเนื้องอก teratoma ที่อวัยวะต่าง ๆ เนื้องอกที่ตับ ไต
หรือตา เป็นต้น
3) ความผิดปกติของโครโมโซม ที่พบได้บ่อยที่สุด คือ Turner syndrome, trisomy 13, trisomy
18 และ trisomy 21 เป็นต้น
4) การติดเชื้อของทารกในครรภ์ ที่พบได้บ่อยทสุดคือ parvovirus B19 และอาจเกิดจากการ ติดเชื้อ
ี่
ซิฟิลิส หรือ กลุ่ม TORCH infection (Toxoplasmosis, Rubella, Cytomegalovirus, Herpes simplex
virus infections) เป็นต้น
5) ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์แฝด เช่น Twin-to-twin transfusion syndrome (TTTS)
ซึ่งเกิดในครรภ์แฝดชนิด monochorion diamnion
6) โรคของมารดา เช่น เบาหวาน หรือโรคของต่อมไทรอยด์
7) สาเหตุอื่น ๆ ซึ่งพบได้น้อย ได้แก่ โรคทางเมตาบอลิซึม เช่น Niemann-Pick disease type-C
(NPC), Gaucher disease type 2,pyruvate kinase deficiency หรือ beta-glucuronidase enzyme deficiency
ื
โรคเนื้องอกของรก การรั่วของเลือดทารกเข้าสกระแสเลอดแม่ (feto-maternal hemorrhage) โรคของเม็ดเลอด
ู่
ื
แดงที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดหรือมีความบกพร่องของผนังเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกตัวเชน
่
hereditary spherocytosis หรือ hereditary elliptocytosis เป็นต้น
2. กลไกการเกิดโรค
2.1 ภาวะบวมน้ำที่เกิดจากปฏิกริยาอิมมูน เกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันของมารดาททำให้มีการ
ี่
ิ
ทำลายเม็ดเลือดแดงของทารกในครรภ์ พบได้ใน หมู่เลือด Rh, C, E, Duffy หรือ Kell แอนติเจน จนทำให้มี
ภาวะซีดของทารกในครรภ์ และมีการกระตุ้นเซลล์กลุ่มเม็ดเลือดแดงของไขกระดูกมากกว่าปกติ (erythroid
hyperplasia) รวมถึงมีการสร้างเม็ดเลือดแดงที่อวัยวะอื่น ที่ไม่ใช่ไขกระดูก (extramedullary hematopoiesis)
เช่น การสร้างจากตับและม้าม จนเกิดการทำงานผิดปกติของตับ ทำให้โปรตีนในเลือดต่ำ colloid oncotic
pressure ลดลง และมีสารน้ำรั่วจากหลอดเลือดฝอยจากการขาดออกซิเจนของเนื้อเยื่อ ทำให้หัวใจโต สารน้ำ
้
สะสมในช่องว่างต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ช่องอก ช่องหัวใจ ช่องท้อง รวมถึงชั้นใตผิวหนัง และรกบวมโต
Hydrops Fetalis 239

