Page 117 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 117
๙๖
เช่นเดียวกัน ด้วยองค์ประกอบของ อาการ ๓๒ ขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณต่างหาก
๔๖
เหล่านี้รวมกันจึงถูกว่าเรียกว่านาคเสน
ี่
๒) นามรูปปัญหาปัญหาข้อนี้ปรากฏอยู่ในมิลินทปัญหาวรรคท ๒ ปัญหาข้อที่ ๘ ขณะนั้น
พระยามิลินท์ได้ถามพระนาคเสนในเบื้องต้นว่า “ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า รูปธรรมนามธรรมนี้
๔๗
ก็นามธรรมนั้นเป็นประการใด รูปธรรมนั้นเป็นประการใด”
พระนาคเสนวิสัชนาแก้ไขว่า “ธรรมสิ่งไรเรียกว่าเป็นธรรมอนหยาบ ธรรมสิ่งนั้นเรียกว่า
ั
รูปธรรม ธรรมสิ่งไรสุขุม ธรรมสิ่งนั้น คือจิตเจตสิกนี้ ชื่อว่านามธรรม พึงสันนิษฐานเข้าใจให้ชัดว่า
ธรรมอันหยาบเรียกว่ารูปธรรม ธรรมอันละเอียดเรียกว่านามธรรม นามธรรม คือจิตเจตสิก”
๔๘
จากปัญหาท่อนแรกที่พระยามิลินท์ถามพระนาคเสนถึงสภาวะแห่งรูปนามที่ว่าอะไรเป็น
ั
รูป อะไรเป็นนาม เมื่อว่าโดยปรมัตถธรรมก็ คือ จิต เจตสิก รูป รูป คือสภาวะที่หยาบอนประกอบไป
ุ
ด้วย รูป ๒๘ ประการโดยแบ่งเป็น มหาภูตรูป ๔ คือ ปฐวี อาโป เตโช วาโย และอปาทายรูป ซึ่งเป็น
รูปที่อาศัยมหาภูตรูป ๔ เกิดขึ้นอีก ๒๔ ประการ รวมเป็นรูป ๒๘ ประการ ส่วนนามก็ได้แก่ จิต ๘๙
๔๙
หรือ ๑๒๑ และเจตสิก ๕๒ ประการ ซึ่งมีลักษณะและสภาวะที่เกิดขึ้นและดับพร้อมกัน
ปัญหาท่อนต่อไปพระยามิลินท์ได้ถามต่อไปว่า “ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า ไฉนเล่า
นามธรรมอย่างเดียวจึงไม่ปฏิสนธิ รูปธรรมอย่างเดียวก็ไม่ปฏิสนธิ”
พระนาคเสนถวายพระพรว่า “รูปธรรมนามธรรม ๒ ประการนี้ อาศัยแก่กัน บังเกิด
ด้วยกันใช่แต่จะให้ปฏิสนธิแต่นามธรรมสิ่งเดียวหามิได้”
ุ
พระนาคเสนได้อปมาถึงสภาวะรูปนามให้พระยามิลินท์ฟงว่า “เหมือนอย่างว่า ถ้ากลละ
ั
ของแม่ไก่ไม่มี ฟองของแม่ไก่ก็ไม่มี สิ่งใดเป็นกลละ สิ่งใดเป็นฟอง ก็อาศัยกันและกันเกิดขึ้น ข้อนี้ฉัน
ใด ในนามและรูปนั้น ถ้า นามไม่มี รูปก็ไม่มีเช่นเดียวกัน สิ่งใดเป็นนาม สิ่งใดเป็นรูป ก็เป็นสิ่งที่อาศัย
กันและกันเกิดขึ้น ข้อนี้ได้เป็นมาแล้วสิ้นกาลยืดยาว”
๕๐
๔๖ มิลินทปัญหา ๑/๑/๓๑-๓๕.
๔๗ อ้างแล้ว.
๔๘ อ้างแล้ว.
๔๙ พระคันธสารวงค์ (แปล),อภิธัมมัตถสังคหะและปรมัตถทีปนี, หน้า ๖๙-๗๙.
๕๐ มิลินทปัญหา ๒/๘/๖๙-๗๐.

