Page 121 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 121

๑๐๐


                                                                                                        ๕๙
                                 ๑) ปรินิพพานปัญหาปัญหาข้อนี้ปรากฏอยู่ในมิลินทปัญหาวรรคที่ ๒ ปัญหาข้อที่ ๔
                       โดยที่พระยามิลินท์ได้ตรัสถามพระนาคเสนว่า “พระผู้เป็นเจ้า ผู้ใดไม่ปฏิสนธิ เขาจะเสวยเวทนาที่เป็น

                       ทุกข์หรือไม่?”

                                 พระนาคเสนได้ตอบว่า “เสวยบ้าง ไม่เสวยบ้าง”

                                 พระยามิลินท์ได้ตรัสถามต่อไปว่า “เสวยเวทนาชนิดไหน ไม่เสวยเวทนาชนิดไหน”
                                 พระนาคเสนตอบว่า “เสวยเวทนาที่มีกายเป็นสมุฏฐาน ไม่เสวยเวทนาที่มีจิตเป็น

                       สมุฏฐาน”

                                 พระยามิลินทร์ไล่เลียงท่านต่อไปว่า“ไฉนจึงเสวยเวทนาที่มีกายเป็นสมุฏฐาน ไฉนจึงไม่
                       เสวยเวทนาที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน”


                                 พระนาคเสนได้เฉลยต่อไปว่า “สิ่งใดเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดทุกขเวทนา ที่มีกายเป็น
                       สมุฏฐาน เพราะยังไม่สิ้นแห่งเหตุและปัจจัยนั้น จึงเสวยทุกขเวทนาที่มีกายเป็นสมุฏฐาน สิ่งใดเป็นเหตุ

                       เป็นปัจจัยให้เกิดทุกขเวทนาที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน เพราะความสิ้นแห่งเหตุและปัจจัยนั้น จึงไม่เสวย
                       ทุกขเวทนาที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน แม้ค านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ได้ตรัสไว้ว่า ‘พระอรหันต์ท่านเสวยแต่

                       เวทนาที่มีกายเป็นสมุฏฐานอย่างเดียว ไม่ได้เสวยเวทนาที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน”
                                                                                     ๖๐
                                                                                                        ๖๑
                                 ๒) นิโรธนิพพานปัญหาปัญหาข้อนี้ปรากฏอยู่ในมิลินทปัญหาวรรคที่ ๔ ปัญหาข้อที่ ๘
                       โดยพระยามิลินท์ได้ตรัสถามพระนาคเสนว่าพระผู้เป็นเจ้า นิพพาน คือ นิโรธ หรือ

                                 พระนาคเสนได้ตอบว่า“ขอถวายพระพร นิพพาน คือนิโรธ”

                                 พระยามิลินท์ได้ตรัสถามต่อไปว่า “ คือ นิโรธอย่างไร”

                                 พระนาคเสนได้ชี้แจงต่อไปว่า “ปุถุชนคนเขลาทั้งหลายทั้งปวงยินดีเพลิดเพลินหมกมุ่นอยู่

                                                                                                      ้
                                                              ั
                                                ั
                       ในอายตนะภายในภายนอก อนกระแสตัณหาพดพาให้ลอดไปอยู่ อาตมาภาพจึงกล่าวว่า ‘ไม่พนไป
                                                                           ้
                       จากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส ไม่พนไปจากทกข์ได้’ ส่วนอริยสาวก ผู้ได้
                                                                                    ุ
                       สดับแล้ว ย่อมไม่ยินดีเพลิดเพลินหมกมุ่นอยู่ในอายตนะภายในภายนอก เมื่อท่านไม่ยินดีเพลิดเพลิน
                       หมกมุ่นเช่นนั้น ตัณหา คือความทยานอยากย่อมดับไป เพราะตัณหาดับไป อุปาทาน คือการถือมั่น ก็

                       ดับไป เพราะอปาทานดับไป ภพ คือกรรมก็ดับไป เพราะดับภพ ชาติ คือความเกิดก็ดับไป เพราะชาติ
                                   ุ







                                 ๕๙ อ้างแล้ว.
                                 ๖๐ อ้างแล้ว.
                                 ๖๑ อ้างแล้ว.
   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126