Page 125 - การวิเคราะห์อภิปรัชญาที่ปรากฎในสารัตถะแห่งคัมภีร์มิลินทปัญหา
P. 125

๑๐๔


                                 พระนาคเสนตอบว่า
                                 “บางคนกลับปฏิสนธิอีก บางคนไม่กลับปฏิสนธิอีก”


                                 พระยามิลินท์ถามต่ออีกว่า
                                 “ใครกลับปฏิสนธิอีก ใครไม่กลับปฏิสนธิอีก”


                                 พระนาคเสนตอบว่า
                                 “ผู้มีกิเลสกลับมาปฏิสนธิอีก ผู้สิ้นกิเลสไม่กลับมาปฏิสนธิอีก”


                                        ิ
                                 พระยามลินท์ถามต่อไปว่า
                                 จากปัญหาที่ยกมาข้างบนจะเห็นได้ว่า พระยามิลินทร์ต้องการทราบว่า มีใคร ๆ ที่ตายแล้ว

                       กลับมาเกิดอกไหม ซึ่งหมายถึงว่า สภาวะของปรมัตถธรรม (ในอภิธรรม คือจิต เจตสิก และรูป ในพระ
                                 ี
                       สูตร หมายถึงการท างานของขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ซึ่งพระนาคเสนก็ตอบ

                       แบบมีเงื่อนไขว่า กลับมาเกิดก็มี ไม่กลับมาเกิดก็มี จากค าตอบของพระนาคเสนถ้าวิเคราะห์ในเชิง

                       อภิธรรมจะพบว่า นามรูปที่กลับมาเกิดอีกก็มีและไม่กลับมาเกิดอีกก็มี

                                                              ี
                                                                                   ี
                                 ประเด็นต่อมา ใครกลับมาปฏิสนธิอก ใครไม่กลับมาปฏิสนธิอก พระนาคเสนก็ตอบต่อไป
                                           ี
                                                                  ี
                       ว่า ผู้มีกิเลสกลับมาเกิดอก ผู้สิ้นกิเลสไม่กลับมาเกิดอก นั่นก็หมายความ นามรูปใดที่ยังมีสภาวะของ
                       อกุศลจิต อกุศลเจตสิก และกุศลจิต กุศลเจตสิกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นระดับกามาวจร รูปวาจร หรือ อรูปาว
                                                                                                        ี
                                                                    ุ
                                                    ิ
                       จร ภาวะจิตนั้นยังมีวิบากทจะต้องเกดขึ้นต่อเนื่องจากอศลหรือกุศล นามรูปนั้นก็ยังต้องกลับมาเกิดอก
                                             ี่
                                                                                                 ุ
                                                                       ั
                       และในขณะเดียวกัน หากว่านามรูปใดที่ได้รับการอบรมพฒนาตามกระบวนการในพระพทธศาสนา
                                                                                                   ี
                       จนถึงขั้นโลกุตตระ หรือที่เรียกว่าอรหัตตผลจิต ภาวะของจิตของนามรูปนั้นก็จะมีลักษณะเพยงกริยา
                       จิต เป็นภาวะจิตของพระอรหันต์ หรือภาวะนิพพานจิต นามรูปเช่นนั้นก็จะไม่กลับมาเกิดหรือปฏิสนธิอีก
                                 ในท่อนท้ายของปัญหานี้ พระยามิลินท์ถามเจาะเข้าไปถึงตัวของพระนาคเสนว่า พระคุณ

                       เจ้าจะกลับมาปฏิสนธิอก หรือไม่ ซึ่งพระนาคเสนก็ตอบแบบมีเงื่อนไขอย่างออกตัวว่า ‘ถ้าอาตมายังมี
                                          ี
                                                        ุ
                                                                                  ี
                       อปาทานอยู่จักกลับปฏิสนธิอก ถ้าไม่มีอปาทาน จักไม่กลับมาปฏิสนธิอก’  นั่นก็หมายความว่าหาก
                                               ี
                        ุ
                       นามรูปที่ประกอบกันเข้าเป็นกลุ่มก้อนที่สมมติเรียกว่าท่านนาคเสนยังมีการยึดมั่นถือมั่นหรือที่เรียกว่า
                        ุ
                                                                                         ุ
                                                              ี
                       อปาทานอยู่ นามรูปนั่นก็ยังจะกลับมาปฏิสนธิอก และในขณะเดียวกันหากไม่มีอปาทานนามรูปนั้นก็
                       จะไม่กลับมาปฏิสนธิอีก ซึ่งเป็นไปตามหลักการอ้างเหตุผลแบบนิรนัย
                                 ๔.๑.๒ นามรูปปฏิสนธิคหณปัญหา

                                 ปัญหาข้อนี้ปรากฏอยู่ในวรรคที่ ๒ ปัญหาที่ ๖ ของมิลินทปัญหา  ซึ่งพระยามิลินท์ได้ถาม

                       พระนาคเสนในท่อนแรกของปัญหาว่า

                                 “นามรูปนี้หรือจะปฏิสนธิ”
   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130