Page 281 - รูปแบบพุทธวิธีการบริหารหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสงัคมศึกษา ของผู้บริหารในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
P. 281
๒๗๔
พงศ์ ได้วิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อการบริหารวิชาการของสถานศึกษาขั้น
พื้นฐานด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการจัดการ
ความรู้เพื่อการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ
แบบมีส่วนร่วม ประกอบด้วย ๓ องค์ประกอบหลัก คือ ๑. การบริหารงานวิชาการสถานศึกษาขั้น
ื้
พนฐาน ได้แก่ การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ประกอบด้วยกิจกรรม การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
การจัดกระบวนการเรียนรู้และการนิเทศการสอน ๒. กระบวนการจัดการความรู้ ประกอบด้วยการ
ระบุความรู้ การพัฒนาความรู้การสร้างความรู้ การจัดความรู้ให้เป็นระบบ การเข้าถึงความรู้ การ
แบ่งปันความรู้และการเรียนรู้ ๓. ปัจจัยที่สนับสนุนให้การจัดการจัดการความรู้ประสบผลสำเร็จ
ประกอบด้วยภาวะผู้นำ กลยุทธ์ วัฒนธรรมองค์การ เทคโนโลยี โครงสร้างและการวัดผล
๔
๕. ด้านการบริหารงบประมาณ
ผลการศึกษา พบว่า การบริหารงบประมาณมีส่วนสำคัญที่จะทำให้การบริหารสถานศึกษา
ได้สามารถบรรลุผลตามเป้าหมายของหลักสูตรและสถาบันได้ เป็นการวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายในรูปตัว
เงิน ประกอบด้วย การจัดเตรียมการ การอนุมัติ และการบริหาร โดยมีการวางแผนในการใช้และ
้
จัดสรรเงินงบประมาณไปในแต่ละด้าน และมีการวางแผนการปฏิบัติงานในการใช้จ่ายทรัพยากรนันๆ
เพื่อที่จะก่อให้เกิดประโยชนสูงสุดในเวลาที่เร็วที่สุดและใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด เริ่มตั้งแต่ต้องมีการทำ
การวางแผนงบประมาณ จัดทำงบประมาณ การนำเสนองบประมาณ การนำงบประมาณไปบริหาร
จนถึงกระบวนการประเมินผลงบประมาณที่ทำแล้วเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการใช้งบประมาณ
การบริหารหลักสูตรด้านงบประมาณ ถือว่ามีความสำคัญมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้บุคลากรที่มี
ความชำนาญการในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างคล่องตัว ยิ่งเป็นระดับผู้บริหารแล้ว
ยิ่งสำคัญมากในการที่จะมีความรู้ ความสามารถ เพื่อให้การบริหารงบประมาณหรือการใช้จ่ายเงินของ
หลักสูตรเป็นไปอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด การที่จะ
บริหารงบประมาณของหลักสูตรให้บรรลุตามวัตถุอย่างมีประสิทธิภาพได้นั้น จำเป็นที่ต้องมีผู้บริหารที่
มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการศึกษา และการบริหารงบประมาณเป็นอย่างดี ตลอดจนมี
ความสามารถในการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหน่วยงานโดยการนำเอา
หลักการและทฤษฎีการบริหารมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รู้ขอบข่ายหน้าที่และงานที่ต้องปฏิบัติ
ี
่
สามารถนำความรู้ความสามารถนั้นไปประยุกต์ใช้ในงานได้เป็นอย่างดีอกด้วย ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะวา
๔ เตือนใจ รักษาพงศ์, “การพัฒนารูปแบบการจัดการความรู้เพื่อการบริหารงานวาการชอง
สถานศึกษาชั้นพื้นฐานด้วยกรบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ”, ปริญญานิพนธ์ศึกษาศาสตร์ดุษฎี
บัณฑิต, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๕๑).

