Page 288 - รูปแบบพุทธวิธีการบริหารหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสงัคมศึกษา ของผู้บริหารในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
P. 288

๒๘๑


                       ๓) ไม่บัญญัติสิ่งที่มิได้บัญญัติไว้ ไม่ล้มล้างสิ่งที่บัญญัติไว้ คือ ผู้บริหารประเมินผลการปฏิบัติงานของ
                       บุคลากรตามตัวชี้วัดและประเมินผลการจัดการเรียนการสอนตามเกณฑ์ที่ตามมาตรฐานการวัดและ

                       ประเมินผล ๔) การให้ความเคารพต่อประธานในที่ประชุม คือ ประธานหลักสูตรหรือหัวหน้าสาขาวิชา
                       สังคมศึกษา ได้วัดและประเมินผลหลักสูตร วัดและประเมินผลนิสิต และวัดและประเมินผลถึงความ

                       เสี่ยงหลักสูตร (สกอ.) ๕) ไม่ลุอำนาจแก่ความอยากที่เกิดขึ้น คือ ผู้บริหารประเมินบุคลากรทุกระดับ

                       โดยใช้หลักเกณฑ์ของการประเมินผลมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเกิดการยอมรับร่วมกัน ๖) เคารพสิ่ง
                       ศักดิ์สิทธิ์ คือ ผู้บริหารหลักสูตรให้ความเคารพต่อสถานที่สำคัญ โดยมองถึงแนวคิดหลักว่าด้วยถูปาร

                       หาบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมไทย ๗) ดูแล รักษา คุ้มครองพระสงฆ์และผู้มีศีลธรรม คือ ผู้บริหาร
                                                                                            ื่
                       ประเมินองค์การตามข้อสั่งการในรายงานผล และผลของการดำเนินงานต้องเป็นไปเพอสร้างคุณธรรม
                       จริยธรรมในองค์การเน้นคุณธรรม จริยธรรม ในการทำความดี ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่า การวัดและ

                       ประเมินผลของหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา มีรูปแบบที่เหมาะสม ชัดเจน ได้
                       มาตรฐานตามที่คุรุสภากำหนด จึงทำให้หลักสูตรสามารถนำผลของการประเมินหลักสูตรมาบูรณาการ

                       ความรู้ในการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา จัดทำแผนการเรียนการสอน จัดกระบวนการเรียนรู้ เลือก

                       สื่อและนวัตกรรมที่สอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ นำเทคนิคและยุทธวิธีในการจัดการเรียนรู้ เพอ
                                                                                                        ื่
                       พัฒนาผู้เรียนได้ดีมีประสิทธิภาพในการบริหารหลักสูตรได้ ซึ่งสอดคล้องกับรายงานการวิจัยของ

                       วินัย ภูมิสุข ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง “การพัฒนาการบริหารหลักสูตรสาขาวิชารัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย
                       มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย” ผลการวิจัยพบว่า ด้านการวัดผลและประเมินผลตามหลักอปริหานิย

                       ธรรม พบว่า มีองค์ประกอบ ๗ ประการ ได้แก่ ๑) กำหนดเกณฑ์ที่มีคุณภาพ ๒) บุคลากรรู้วิธีวัดและ

                       ประเมินผล ๓) เกณฑ์การประเมินตามบุคคลที่สำคัญในท้องถิ่น  ๔) รูปแบบการวัดและประเมินผล
                       ตามเกณฑ์ของ สกอ. ๕) การมอบหน้าที่ให้กับสตรีรับผิดชอบ ๖) ผู้นำทราบถึงวิธีการวัดและการ

                                                                 ๙
                       ประเมินผล และ ๗) การให้เกณฑ์คนไม่เก่งแต่ดีขยัน
                                     ๕. ด้านการบริหารงบประมาณ ควรมีรูปแบบพุทธวิธีการบริหารหลักสูตรพุทธ

                       ศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา ดังนี้ ๑) หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ คือ ผู้บริหารและบุคลากร
                       ประชุมทบทวนแผนปฏิบัติการประจำปีก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณล่วงหน้า เพื่อวิเคราะห์และหาข้อสรุป

                       การดำเนินงานที่สอดคล้องกับภารกิจ วิสัยทัศน์ พันธกิจอัตรากำลัง และสายงานของบุคลากร ๒)

                       พร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม คือ ผู้บริหาร ครูอาจารย์ บุคลากรพร้อมเพรียงกัน






                                 ๙ วินัย ภูมิสุข, “การพัฒนาการบริหารหลักสูตรสาขาวิชารัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ
                       ราชวิทยาลัย”, วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์), (บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหา

                       จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย, ๒๕๕๘).
   283   284   285   286   287   288   289   290   291   292   293