Page 11 - แผนการจัดการเรียนการสอนวิทย์พื้นฐาน ม.2
P. 11

8



                                     ู้
                 แนวทางการจัดการเรียนรวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความร  ู้
                   ในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในห้องเรียนที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียนแห่งศตวรรษท  ี่

            21 และธรรมชาติการเรียนรู้ของมนุษย์นั้น ครูสามารถเลือกกลวิธีในจัดการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายตามความเหมาะสมกับ
                                                                                     ้
                                                                                       ่
                                                                                                        ้
                                                               ั
                                                ี่
            เนื้อหา เวลา บริบท และปัจจัยอื่น ๆ กลวิธีทสามารถน ามาใช้จดการเรียนรู้ในห้องเรียนได เชน การเรียนรู้แบบใชปัญหาเป็น
            ฐาน (Problem-Based Learning) การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry-Based Learning)
                   การสืบเสาะ (Inquiry) เป็นกระบวนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยเลียนแบบวิธีการที่นักวิทยาศาสตร์
                                                      ิ
            ใช้ในการสืบเสาะหาความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับธรรมชาต แม้ว่าจะมีการน าการเรียนรู้แบบสืบเสาะมาใช้ในการเรียนรู้
            วิทยาศาสตร์มาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ปัจจุบันก็ยังปรากฏความสับสนหลายประการเกี่ยวกับการ
            เรียนรู้แบบสืบเสาะ ดังนี้
                   1. การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5 ขั้น (5E Learning Cycle) เป็นสิ่งเดียวกัน

                                                                        ่
                   2. การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต้องจัดแบบสืบเสาะหาความรู้เทานั้น


                                                  ื
                   3. การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้คอต้องให้ผเรียนเป็นผู้ตั้งคาถาม และท าการสืบเสาะเพื่อตอบคาถามที่ตนตั้งไว้
                                                          ู้
            ด้วยตัวเอง
                                                                                                             ึ
                                   ื
                                                  ื
                                                                ู้

                   4. การเรียนรู้แบบสบเสาะหาความรู้คอการมุ่งเน้นให้ผเรียนได้ลงมือทากิจกรรม (hands-on activity) เพื่อฝกฝน
            ทักษะกระบวนการมากกว่าการสร้างองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์
                           ื่
                                                                                ั
                                                                                                   ื
                                              ู้
                               ้
                   5. ความตนเตนสนุกสนานของผเรียนระหว่างท ากิจกรรมเป็นตวบ่งชี้ระดบของการเรียนรู้แบบสบเสาะหาความรู้
                                                                       ั
            ทางวิทยาศาสตร์
                   ตามมาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (National Science Education Standards)
            โดยสภาวิจยแห่งชาต (NRC, 1996) ไดนิยาม “การสบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์” (Scientific Inquiry) ว่าเป็น
                                                         ื
                                             ้
                      ั
                               ิ
                                                       ้
                                       ี่
                                                                                                   ิ
                                                                            ่
                                                                                  ี่
                        ื
            กระบวนการสบเสาะหาความรู้ทนักวิทยาศาสตร์ใชเพื่อศกษาปรากฏการณตาง ๆทเกิดขึ้นในธรรมชาต และน าเสนอผล
                                                                           ์
                                                            ึ
            การศึกษานั้นตามสารสนเทศ หรือหลักฐานต่าง ๆ ที่รวบรวมได้การจดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบสบ
                                                                    ั
                                                                                                               ื
            เสาะหาความรู้ จึงหมายถึงการให้ผเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา
                                        ู้
                                                        ่
                                                                                 ื
                                ู่
                                       ั
            ทางวิทยาศาสตร์ควบคไปกับทกษะกระบวนการตาง ๆ ระหว่างกระบวนการสบเสาะหาความรู้แบบเดยวกัน กับท             ี่
                                                                                                      ี
                                                                 ิ

                                                      ์
                                                                           ้
                                                                       ่
                                                                   ึ
                                                                                      ั
                                                                                               ื
            นักวิทยาศาสตร์ใช้เพื่อทาความเข้าใจปรากฏการณตามธรรมชาต จงกลาวไดว่า หัวใจส าคญของการสบเสาะหาความรู้ทาง
                                   ื
                                                    ้
                                             ู้
                                                      ้

                           ั้
            วิทยาศาสตร์ในชนเรียนก็คอ การให้ผเรียนไดใชกระบวนการในการสารวจตรวจสอบ (Investigation Process) และ
                                                                     ั
            รวบรวมข้อมูลหรือหลักฐานต่าง ๆ มาใช้อธิบายปรากฏการณ์หรือแก้ปญหา ข้อสงสัยที่ตนมีเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจใน
            หลกการหรือเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งการสบเสาะหาความรู้ทผเรียนไดทาระหว่างการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มีสวนท ี่

                                                                            ้
                                                                    ี่
                                                                     ู้
              ั
                                                    ื
                                                                                                             ่
            คล้ายคลึงกับวิธีการที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ
                   การสบเสาะหาความรู้ในห้องเรียนสามารถทาได้หลายระดับ ตั้งแตการทผสอนเป็นผู้ก าหนด การส ารวจตรวจสอบ

                                                                                ู้
                                                                              ี่
                                                                          ่
                        ื

                                                ้
                                          ี่
                                        ิ่
            ของผู้เรียน เพื่อตรวจสอบยืนยันสงทรู้มาแลวไปจนถึงการที่ผสอนเปิดโอกาสให้ผเรียนออกแบบการสารวจตรวจสอบอย่าง
                                                                              ู้
                                                              ู้

                                                                                                   ้
                                                                                                               ื
            อิสระเพื่อสารวจปรากฏการณทยังไม่สามารถอธิบายได การจดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยให้ผเรียนใชกระบวนการสบ
                                                           ้
                                                                                            ู้
                                                                ั
                                     ์
                                       ี่
            เสาะหาความรู้แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
                   1. การสืบเสาะแบบก าหนดโครงสร้าง
                   2. การสืบเสาะแบบกึ่งก าหนดโครงสร้าง
                   3. การสืบเสาะไม่ก าหนดโครงสร้างโดยบทบาทของผู้สอนและผู้เรียนแต่ละระดับมีความแตกต่างกัน
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16