Page 33 - นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนธันวาคม ๒๕๖๔
P. 33

ี
            รักษาพระองค์ฯ ออกไปรบสมทบกับทัพหน้าบนบกบ้าง ดังจะเห็นได้จากข้อความในพงศาวดารฯ ท่มีพระราช
              �
            ดารัสแก่แม่ทัพนายกองภายหลังการรบแล้ว ส่วนกองพระยาพิพิธคงจัดไว้เป็นกองหนุนเหมือนกันในเวลาเข้าตีเมือง
                 ิ
                  ้
                                                                                �
                                                                                           ู
                                                                                                    ่
                     ่
                                   ิ
                                          �
                                                     ู
                              ้
                                                                  ื
                                                               ู่
                        ้
                                                                                              ื
            และมไดกลาวไวว่าพระเจาตากสนฯ ทรงอานวยการรบอย่บนบกหรืออยในเรอ แต่เข้าใจว่าทรงอานวยการรบอย่ในเรอมากกวา
            เพราะเป็นการสะดวกท่จะเสด็จไปท่ใด และมองเห็นสมรภูมิและภาพเหตุการณ์ได้ท่วไป (จากประวัติการทหารเรือไทย
                                        ี
                              ี
                                                                           ั
            พ.ศ. ๒๕๐๘)






                                               ิ
                                                                                         ิ
                นิโคลัส เซลเลอร์ ได้ให้รายละเอียดเพ่มเติมว่า “สยามน่าจะโจมตีเมืองเป็น ๒ ระลอก เร่มด้วยการโจมต  ี
                                                           ึ
            ทางกาแพงเมืองก่อนแล้วสนับสนุนด้วยปืนใหญ่  และปืนไฟท่นาข้นไปบนเนินเขาโตเจินซ่งเป็นภูเขาลูกย่อม ๆ สูง  ๓๐๐  เมตร
                                                        ี
                �
                                                         �
                                                                            ึ
            จากระดับนาทะเลปานกลาง สามารถมองเห็นตัวเมืองได้คล้ายกับแหลมเผ่าได๋ซ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ท่สาคัญ”
                                                                                                �
                      �
                                                                             ึ
                                                                                               ี
                      ้
            ทัพบก ทัพเรือพรักพร้อมกันหักเอาเมืองได้รุ่งเช้า ไพร่พลเมืองฮาเตียนแตกกระจัดกระจายหนีไป พระยาราชาเศรษฐ  ี
            (หมักเทียนตื๋อ) หนีลงเรือไปได้ จับตัวพระองค์เจ้าจุ้ย และเจ้าเมืองจันทบุรีคนเก่า (ซึ่งหลบหนีมาเมื่อพระเจ้าตากสินฯ
            ตีเมืองจันทบุรี) ไปจ�าขังไว้
                เวลาโมงเช้าเศษ พระเจ้าตากสินฯ เสด็จเข้ามาประทับที่จวน พระยาราชาเศรษฐีตรัสสั่งว่า “สัมฤทธิ์ราชการแล้ว
                                                      ั
                                                            ึ
            ให้มีกฎหมายประกาศแก่นายทัพนายกองไทยจีนท้งปวง ซ่งจีนและญวนไพร่พลเมืองจะเดินทางไปมาค้าขาย
                                                            ี
                                                        ั
            ตามถนนหนทางอย่าให้จับกุมโบยตีฆ่าฟันเป็นอันขาด ให้ต้งเกล้ยกล่อมทามาหากินตามภูมิลาเนาดังแต่ก่อน ถ้าผู้ใดมิฟัง
                                                                  �
                                                                                 �
                                                     ั
            บังอาจละเมิดพระราชกาหนดจงลงพระราชอาญาผู้น้นถึงชีวิต” (เป็นการอนุรักษ์ยุทธวินัยมิให้ทหารข่มเหงพลเมือง
                               �
            ที่มิได้ตีโต้อันจะท�าให้พลเมืองมีความจงรักภักดีต่อไป)
                                                                                              ั
                                                          �
                     ึ
                                                                                          ี
                ส่งหน่งท่ตรงกับหลักการสงครามสมัยใหม่ก็คือ การทา Lesson Learn หลังเสร็จยุทธการท่มีมาต้งแต่สมัย
                 ิ
                       ี
                                                 ั
            พระเจ้าตากสินฯ กล่าวคือ หลังจากน้นทรงมีรับส่งสอบถามบรรดาแม่ทัพนายกองถึงวิธีปฏิบัติในเวลารบท้งฝ่ายเรือและ
                                                                                           ั
                                        ั
            ฝ่ายบก เพื่อจะได้ทรงทราบว่าใครท�าถูกท�าผิด จะได้เป็นบทเรียนไว้ส�าหรับการรบในคราวต่อไป เช่น
                - มีรับสั่งถามเจ้าพระยาจักรี (หมุด) ว่า เมื่อญวนลงเรือหนีไปท�าไมจึงไม่ยิงปืน ในเวลานั้นเจ้าพระยาจักรี (หมุด)
                                                 ื
                                                                                    ื
                                                                                               �
            กราบทูลว่า เพราะเรือรบในบังคับบัญชาของจม่นไวยวรนาถขวางหน้าอยู่ จึงเข้าพระทัยว่าจม่นไวยวรนาถทาการรบ
            ไม่เข้มแข็ง รี ๆ รอ ๆ ไม่รีบเข้าตีเรือข้าศึก ท�าให้เกะกะไม่เป็นประโยชน์อันใดในการสู้รบ ควรจะต้องลงพระอาญาเฆี่ยน
            คนละ ๓๐ ที แต่ให้ทุเลาไว้ก่อน และให้ท�าการแก้ตัวในการรบครั้งต่อไป
                                                                                           ู
                    ั
                -  มีรบส่งถามหวหน้ากองอาจารย์ว่า คุมทหารหักเข้าค่ายทางด้านไหน หัวหน้ากองอาจารย์ ๓ คน กราบทลไม่เหมือนกัน
                           ั
                      ั
                                      ั
                                   ี
            ได้ความจริงว่าไม่เข้าตีตามท่รับส่งไว้ นับว่ามีความผิด จึงให้ลงพระอาญาเฆ่ยนคนละ ๕๐ ท ไพร่คนละ ๒๐ ท    ี
                                                                         ี
                                                                                      ี
            ส่วนความชอบที่ตีค่ายได้นั้น ก็พระราชทานบ�าเหน็จรางวัลคนละ ๖ ชั่ง
                                                                                    นาวิกศาสตร์   31
                                                                                    ปีที่ ๑๐๔  เล่มที่ ๑๒  ธันวาคม ๒๕๖๔
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38